นายกรัฐมนตรีประชุม ครม.ก่อนบินไปจีน ถกความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ขอบคุณนักข่าวอวยพรวันเกิดย้อนหลัง พร้อมเผยแพร่ “คัมภีร์ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ” แนะทำเกษตรปลูกพืชใช้น้ำน้อยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ยันรัฐบาลไม่ได้ละเลยปัญหาทุจริต ส่วนคดีเบนซ์จนฟอร์ดให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม้กั้นที่ชนเสียหายจะบอกว่าไม่เสียไม่ได้
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (22 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนที่จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 1 (Mekong-Lancang Cooperation : MLC) ที่เมืองซานย่า และการประชุม Boao Forum for Asia ณ เมืองโป๋อ๋าว มณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในบ่ายวันเดียวกันนี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้อวยพรวันคล้ายวันเกิดย้อนหลังว่า “ขอบคุณนะ ขอให้มีความสุขเช่นกัน”
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายอภินันท์ จันทรางศรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นำหนังสือ SMART FARMEW รู้ไว้ทำได้จริง คำภีร์ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ มามอบให้เพื่อนำเสนอประชาสัมพันธ์การทำการเกษตรรูปแบบใหม่ที่ใช้พืชน้ำน้อยและการทำการเกษตรแปลงใหญ่ ไร่นาสวนผสม
นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า ในเรื่องของการเกษตรต้องมีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน โดยเฉพาะน้ำทั้งในและนอกเขตชลประทาน ยอมรับว่าเป็นห่วงโดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน เพราะน้ำมีน้อย จะต้องไปศึกษาว่าพื้นที่เป็นอย่างไร ใช้น้ำให้น้อยที่สุด ได้ส่งเรื่องให้ทาง อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดูแลต่อเพื่อให้สอดคล้องกับการวิจัยพัฒนา และงานช่างฝีมือไปด้วย เพื่อที่จะได้นำไปสู่การส่งออกเพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น เพราะถ้าเราให้เงินไปอย่างเดียวเดี๋ยวก็หมด จะต้องมีการส่งเสริมการตลาด บริหารจัดการ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณลงไปแล้ว เช่น โรงสีข้าวขนาดเล็ก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนเป็นการนำร่อง ในส่วนของสินค้าภาคการเกษตรต่างๆ ต้องปลูกให้มีความเหมาะสมและความต้องการของตลาด ที่สำคัญจะต้องมีการแปรรูปเพื่อที่จะได้ส่งออก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยปล่อยปละละเลย สั่งให้ไปดำเนินการตรวจสอบ รัฐบาลไม่ปล่อยให้มีการทุจริตเลย ที่รู้ก็ได้ลงโทษไปแล้ว แต่บางเรื่องที่ยังไม่ลงโทษก็เพราะยังไม่รู้ ยังไม่มีข้อมูล แต่ก็มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปดำเนินการ ขณะนี้มีหลายเรื่องอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ เราต้องรอความชัดเจน ไม่ใช่ฟังแต่สังคมโซเชียลมีเดียแล้วมากล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ดำเนินการ อย่าเอาเรื่องเล็กๆ น้อยมาโยงกันไปมา
“เรื่องการดำเนินการตรวจสอบคดีความต่างๆ นั้นก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย เช่น เรื่องคดีรถเบนซ์ชนรถฟอร์ดจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ก็มีการโยงไปถึงคดีอื่น อย่าไปโยงไปโยงมา ก็ให้ตัดสินไปตามคดีความและความผิดที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นเรื่องมันไม่จบ อย่างไม้กั้นที่ชนไปแล้วมันก็เสียหาย จะไปบอกว่าไม่เสียหายไม่ได้ ก็ต้องไปดู ถ้ารัฐบาลนี้ทำไม่ได้ ก็อย่าไปหวังรัฐบาลหน้าเลย”