กรุงเทพโพลล์วิตกภัยแล้ง ห่วงขาดรายได้ แต่ใช้น้ำเหมือนเดิม หนุนจ่ายน้ำเป็นเวลา

กรุงเทพโพลล์ เผยชาวบ้าน 54.4% ใช้น้ำเหมือนเดิม 62.9% วิตกภัยแล้ง 55.1% ห่วงขาดรายได้ ทำพืชผลเสียหาย 50% รับมือและไม่รับมือเท่ากัน 80.1% แนะใช้น้ำประหยัดขึ้น 38.4% ระบุมีผลกระทบต่อการดำรงชีพค่อนข้างน้อย 55.8% หนุนรัฐบาลจ่ายน้ำเป็นเวลา 51% พอใจรัฐแก้ปัญหาค่อนข้างมาก

วันนี้ (19 มี.ค.) กรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ประชาชนกับวิกฤตภัยแล้ง 2559 เนื่องในวันอนุรักษ์น้ำโลก 22 มีนาคมนี้ โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,263 คน ต่อการใช้น้ำของประชาชนในปัจจุบัน พบว่า ร้อยละ 54.4 ใช้เหมือนเดิม ร้อยละ 38 ใช้ลดลง และร้อยละ 7.6 ใช้เพิ่มขึ้น

เมื่อถามถึงความวิตกกังวลกับสถานการณ์ภัยแล้ง และการขาดน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคในปัจจุบัน ร้อยละ 62.9 วิตกกังวล และ ร้อยละ 37.1 ไม่วิตกกังวล เมื่อถามถึงเรื่องที่ทำให้กังวลมากที่สุดจากการเกิดสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ ร้อยละ 55.1 รายได้ การทำเกษตร พืชผลเสียหาย ร้อยละ 53.4 ข้าวของราคาแพงขึ้น ราคาสินค้าเกษตรแพงขึ้น ร้อยละ 47.3 ไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ ร้อยละ 34.9 ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 25.0 การกักตุนสินค้า สินค้าขาดแคลน เช่น น้ำดื่ม

เมื่อถามถึงการเตรียมรับมือต่อสถานการณ์ภัยแล้ง ร้อยละ 50 มีการเตรียมรับมือ เพราะคาดว่าจะเกิดปัญหาน้ำไม่พอใช้ และร้อยละ 50 ไม่มีการเตรียมรับมือ เพราะน่าจะมีน้ำใช้เพียงพอ เมื่อถามถึงวิธีการเตรียมรับมือต่อสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจทำให้เกิดปัญหาการขาดน้ำดื่มน้ำใช้ และเพื่อการเกษตร ร้อยละ 80.1 ใช้น้ำอย่างประหยัดขึ้น ร้อยละ 49.1 ซื้อถังเก็บน้ำ ร้อยละ 35.5 กักตุนน้ำดื่ม ร้อยละ 12.1 เปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน และ ร้อยละ 9.5 งดทำการเกษตร เปลี่ยนอาชีพ เมื่อถามว่า ภัยแล้งที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและอาชีพมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 38.4 ค่อนข้างน้อย ร้อยละ 31.1 ค่อนข้างมาก ร้อยละ 22 น้อยที่สุด และร้อยละ 8.5 มากที่สุด

เมื่อถามว่า เห็นด้วยหรือไม่หากรัฐบาลจะออกมาตรการควบคุมการใช้น้ำ เช่น การจ่ายน้ำเป็นเวลา หรือการงดจ่ายน้ำในบางพื้นที่ ร้อยละ 55.8 เห็นด้วย และร้อยละ 44.2 ไม่เห็นด้วย และเมื่อถามถึงความพึงพอใจต่อแนวทางการแก้ปัญหาภัยแล้งของรัฐบาล ร้อยละ 51 ค่อนข้างมาก ร้อยละ 34.8 ค่อนข้างน้อย ร้อยละ 7.2 มากที่สุด และร้อยละ 7 น้อยที่สุด