“ธีรชัย” สั่งเข้ม รปภ.เขตชุมชนชายแดนใต้ อุดช่องว่างช่วงสับเปลี่ยนกำลัง เม.ย.นี้

รองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สั่งทุกหน่วย รปภ. ในเขตชุมชนเมืองอย่างต่อเนื่อง หลังผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามก่อเหตุ พร้อมให้คำแนะนำประชาชนหลีกเลี่ยง และลดการเกิดเหตุ ระบุช่วงเมษายนมีการสับเปลี่ยนตามรอบ 2 กองพัน สั่งวางแผนให้ต่อเนื่อง ควบคุมพื้นที่ได้ ส่วน ศอ.บต. เร่งรัดพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุน และประชาสัมพันธ์เสริมสร้างภาพลักษณ์

วันนี้ (9 มี.ค.) พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยผลการตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ รอง ผอ.รมน. เป็นประธานการประชุมผู้บังคับหน่วย ถึงระดับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข และส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุม กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ภายหลังจากรับฟังการบรรยายสรุป พล.อ.ธีรชัย ได้สั่งการ มีสาระสำคัญที่สมควรประชาสัมพันธ์ให้ทราบดังนี้

ทุกหน่วยต้องให้ความสำคัญกับมาตรการ รปภ. ในเขตชุมชนเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยให้มีการประสานงานและซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติ ในห้วงเวลาพบว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรง (ผกร.) มีความพยายามในการก่อเหตุต่อเป้าหมายกำลังประชาชนและราษฎรโดยทั่วไป จึงให้หน่วยเฉพาะกิจหมายเลข และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน จัดเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติในการหลีกเลี่ยงและลดการเกิดเหตุ เพื่อเป็นการป้องกันและลดการสูญเสียจากกรณีดังกล่าว สำหรับการดูแลเส้นทางปลอดภัย ให้แต่ละหน่วยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อมประเมินผลความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางเพิ่มเติมให้เป็นโครงข่ายเส้นทาง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเดินทางไปในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย

ห้วงเมษายน 2559 มีการสับเปลี่ยนกำลังตามวงรอบ และจะมีกำลังทหารต่างพื้นที่กองทัพภาคจบภารกิจ 2 กองพัน ดังนั้น จึงให้วางแผนและเตรียมการปฏิบัติอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของการรับส่งข้อมูลระหว่างหน่วยสับเปลี่ยนกำลัง การปรับและแบ่งมอบพื้นที่รับผิดชอบใหม่ เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดความต่อเนื่อง และยังคงสามารถควบคุมพื้นที่ได้

กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเร่งรัดดำเนินคดีความมั่นคงที่สำคัญ ให้มีความคืบหน้าในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และยุติธรรม เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ในเรื่องกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ขอให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการบูรณาการระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นไปตามแผนงาน และกรอบเวลาที่กำหนด

ด้านการพัฒนาขอให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เร่งรัดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ การส่งเสริมการลงทุน และประชาสัมพันธ์เสริมสร้างภาพลักษณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ขอขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ได้ร่วมมือกันดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ด้วยความเข้มแข็งจนเป็นที่น่าพอใจ