“มาร์ค” จี้เร่งปฏิรูปสื่อเหตุอิงพื้นฐานการเมือง แนะมีเพดานรายรับโฆษณารัฐ

“อภิสิทธิ์” มองปม “สรยุทธ” ถูกตัดสินโกง อยู่ที่สังคมจะวางบรรทัดฐาน ไม่มี กม.กำหนด แนะควรเร่งปฏิรูปสื่อ ไม่งั้นปฏิรูปการเมืองยาก สังคมไม่สะท้อนค่านิยมต้านโกงก็เสียของ ชี้สื่อควรดูรายรับโฆษณารัฐไม่เกินเท่าไหร่ กันอยู่ใต้อิทธิพล กังวลการแสดงออกให้เกลียดชัง

วันนี้ (3 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าว 13 ปี 4 เดือน ข้อหาทุจริตค่าโฆษณา ว่าต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่มีกฎหมายกำหนด อยู่ที่สังคมจะวางบรรทัดฐานกันอย่างไร โดยเฉพาะในส่วนของสื่อ แต่แม้สมาคมหรือกลุ่มที่รวมกันทางสื่อได้แสดงท่าทีออกมาแล้วแต่ก็ไม่มีผลผูกพันให้ต้องปฏิบัติตาม หากต่างฝ่ายคิดว่าเป็นเรื่องบุคคลจะซื้อโฆษณาหรือทำอะไรก็ได้ ความคาดหวังที่จะเห็นการวางบรรทัดฐานอะไรต่างๆ ก็คงไม่เกิดขึ้น จึงเป็นบททดสอบสำคัญกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเห็นควรที่จะต้องปฏิรูปสื่อเพราะพื้นฐานการเมืองจะอิงอยู่กับระบบการทำงานของสื่อ หากสื่อยังไม่มีการปฏิรูป ความคาดหวังที่จะเห็นการเมืองดีทั้งความโปร่งใส การลดความเกลียดชัง ความรุนแรงจะเป็นเรื่องยาก ตนจึงเรียกร้องให้ถูกจัดให้อยู่ในหมวดของความเร่งด่วน รวมถึงเรื่องทุจริต ที่มีการเรียกร้องรณรงค์ ฆ่าคอร์รัปชัน แต่หากสังคมไม่สามารถสะท้อนค่านิยมที่กำลังรณรงค์อยู่ได้ ก็จะกลายเป็นความว่างเปล่าของคำพูดเท่านั้นเหมือนกับเสียของ ทำไปแล้วก็เหมือนเดิม

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในร่างรัฐธรรมนูญที่บัญญัติเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจซึ่งอาจจะมีงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ หากจะไปให้กับสื่อจะต้องมีกฎหมาย ตนว่าประเด็นไม่ใช่ตรงนั้น แต่อยู่ที่ทำอย่างไรไม่ให้สื่ออยู่ภายใต้อิทธิพล ซึ่งต้องไปควบคุมจากฝ่ายสื่อเองว่ารายรับที่เกิดขึ้นจากการอุดหนุนของหน่วยงานรัฐ มันไม่ควรจะเกินเท่าไหร่ โดยอาจกำหนดเป็นสัดส่วน หรือเพดาน ขณะเดียวกันจะมีการคุ้มครองบุคลากรที่ทำงานวิชาชีพสื่ออย่างไร และต้องมีประมวลจริยธรรมที่บังคับใช้ได้จริงอย่างไร แต่ที่กังวลคือเรื่องปัญหาการใช้สิทธิทางการแสดงออกที่ทำให้เกิดความเกลียดชัง จะลดกันอย่างไร โดยไม่กระทบเสรีภาพในการแสดงออก