โฆษก คสช.โต้ “ทักษิณ” วิจารณ์ รธน.เชื่อมโยงเศรษฐกิจ แค่ความเห็นส่วนตัว เช่นเดียวกับการที่ระบุว่าจำกัดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพื่อรักษาอิทธิพลนายทหารเอาไว้ถือเป็นการมองอย่างหวาดระแวง โดยไม่มีข้อพิสูจน์ ยัน รธน.ไม่มีซ่อนเงื่อน สร้างอำนาจให้กลุ่มใดหรือใครอยู่เหนือนายกฯ
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีสื่อนำเสนอคำให้สัมภาษณ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญ และรัฐบาล คสช.ของนายทักษิณ ชินวัตร ว่าอาจเป็นมุมที่แตกต่างของบุคคล เพราะกรณีที่มีกล่าวว่ารัฐบาลทหารของไทยกำลังทำให้เศรษฐกิจที่เปราะบางของประเทศตกอยู่ในอันตรายด้วยแผนประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่นั้น อาจเป็นความเห็นส่วนบุคคล จากข้อมูลที่ได้รับมาส่วนใหญ่มองว่ารัฐธรรมนูญเสมือนข้อตกลงร่วมกันของคนในประเทศ ด้วยการกำหนดกรอบกติกาให้คนทุกคน หลักๆ จะว่าด้วยบทบาทสิทธิหน้าที่ รวมถึงข้อตกลงในหนทางปฏิบัติของประชาชน บุคคล องค์กร ที่อยู่ร่วมกันในสังคม แตกต่างกันตามสถานะหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคคลและองค์กรนั้นๆ อย่างเหมาะสม รวมไปถึงการกำหนดกฎกติกาให้บุคคลผู้มีหน้าที่ต่างๆ ได้มีกรอบในการทำหน้าที่ให้กับประเทศ กรณีถ้าจะพยายามมองไปเชื่อมโยงกับเรื่องเศรษฐกิจแล้ว ที่จริงการมีระบบและกติกาที่ดีมีระบบถ่วงดุลตรวจสอบที่มีความน่าเชื่อถือ น่าจะเป็นตัวเสริมความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจมากกว่า โดยเฉพาะความมั่นคงทางเศรษฐกิจแบบระยะยาว
ส่วนที่มีการกล่าวว่า จะเป็นการจำกัดอำนาจของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและรักษาอิทธิพลของนายพลทหารเอาไว้นั้น อาจเป็นเพียงความรู้สึกเชิงหวาดระแวงเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีข้อพิสูจน์ในเชิงประจักษ์ว่าจะมีการรักษาอิทธิพลเอาไว้ให้ใครตามที่กล่าวถึง เพราะปกติเมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว ก็คงเป็นตามกระบวนการทางรัฐสภาที่จะต้องเลือกดูฝ่ายบริหารมาทำหน้าที่ ไม่เกี่ยวกับทหาร หรือ คสช. ส่วนในมุมหนึ่งบทบาทขององค์กรอื่นๆ ถ้าจะมีน่าจะมีส่วนในเรื่องการสนับสนุนให้เกิดความสมดุลในมุมต่างๆ ซึ่งก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับกระบวนการทางด้านการบริหาร โดยเฉพาะถ้าไม่เกิดกรณีมีปัญหาข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารนั้นๆ หลักๆ จึงไม่น่ามองว่าจะเป็นการไปจำกัดอำนาจอะไรของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายการเมือง
“มีหลายฝ่ายกลับมองว่ากลไกการสนับสนุนดังกล่าวจะเป็นการเสริมอำนาจทางการบริหารให้มีความมั่นคงมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งมั่นใจว่าการมีส่วนร่วมตามความจำเป็นขององค์กรอิสระต่างๆ ที่เสมือนเป็นตัวแทนของประชาชนในอีกมุมหนึ่งด้วยนั้นจะสามารถสร้างความสบายใจให้เกิดการยอมรับได้กว้างขวางมากขึ้นด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหาความแคลงใจเกี่ยวกับการบริหารงานของฝ่ายบริหารเช่นในอดีต ที่เคยกลายเป็นเงื่อนไขแห่งความขัดแย้งหรือความไม่สงบเรียบร้อย”
พ.อ.วินธัยเชื่อว่ารัฐธรรมนูญนี้ไม่มีซ่อนเงื่อนใดๆ รวมถึงอำนาจที่แท้จริงก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มบุคคลหนึ่งบุคคนใด หรือที่สำคัญอำนาจก็ไม่ได้อยู่ในมือของกลุ่มบุคคลบางคนเหนือนายกรัฐมนตรีขึ้นไป อย่างที่มีการกล่าวถึง คนส่วนใหญ่ยังมั่นใจว่าอำนาจอธิปไตยจะยังคงอยู่กับประชาชนทั้งประเทศแบบทั่วถึงอย่างแน่นอน ซึ่งอาจไม่เหมือนแต่ก่อนที่พอพูดถึงเรื่องอำนาจก็มักจะคิดกันว่าตกอยู่กับฝ่ายบริหารเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น