ปลัด มท.ส่งไลน์จี้ท้องถิ่นสกัดข่าวลือสร้างความเท็จเพิ่มปมแตกแยก

ปลัด มท.สั่งผ่านไลน์ “มหาดไทยสัมฤทธิผล” สกัดข่าวลือทำแตกแยก จี้ “กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบลและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ ชี้แจงลูกบ้าน ปมข่าวลือผ่านสังคมออนไลน์สร้างความเท็จ ด้านมหาดไทยเปิดตัว “ทีมประชารัฐ” หนุนบประมาณจังหวัดละ 150,000 บาท เปิดโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ตามพระราชดำริประจำปี 59 และโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามพระราชดำริ

วันนี้ (21 ก.พ.) นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดแผนยุทธศาสตร์บูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในด้านต่างๆ จำนวน 7 ยุทธศาสตร์ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งให้ทุกจังหวัดขยายผลการดำเนินงานตามโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยให้นายอำเภอเป็นเจ้าภาพหลัก ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสำรวจว่าโรงเรียนใดในพื้นที่ที่สนใจจะขยายผลโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามแนวพระราชดำริฯ ตามหลักการทรงงานระเบิดจากข้างในและการมีส่วนร่วม โดยคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อม ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ต้องมีความพร้อมให้การสนับสนุนและยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยมี “ทีมประชารัฐ” คณะกรรมการสถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกโรงเรียนที่สมัครใจด้วย รวมทั้ง ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำโรงเรียน

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการเกิดความยั่งยืนในช่วงปีแรก กระทรวงมหาดไทยได้ให้จังหวัดเสนอขอใช้งบประมาณ จากคณะอนุกรรมการส่งเสริมการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในภาคการศึกษา ในวงเงินโรงเรียนละไม่เกิน 100,000 บาท โดยเสนอโครงการไปยังกระทรวงมหาดไทยภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ เพื่อรวบรวมส่งให้คณะอนุกรรมการในภาคการเกษตรพิจารณา เพื่อให้ทันต่อการดำเนินงานในช่วงเปิดภาคเรียนเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนการขับเคลื่อนโครงการในปีที่ 2 และ 3 ให้จังหวัดตั้งงบประมาณตามแผนยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อให้การสนับสนุนตามความจำเป็นต่อไป

ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยได้ปรับแนวทางการเสนอโครงการและกิจกรรม ภายใต้โครงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ “ปวงประชาเป็นสุข ด้วยพระบารมี ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ประจำปี 2559 ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณของกระทรวงมหาดไทยโดยตรง โดยให้จังหวัดพิจารณาดำเนินโครงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพัฒนาพื้นที่ การฟื้นฟูป่าไม้ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน และทำให้ประชาชนมีรายได้จากการปลูกพืชโดยไม่ทำลายป่า “ตามโครงการสร้างป่าสร้างรายได้ ตามพระราชดำริประจำปี 2559” และโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันตามพระราชดำริ โดยกระทรวงมหาดไทยจะสนับสนุนงบประมาณจังหวัดละ 150,000 บาท ซึ่งมีกำหนดให้จังหวัดเสนอโครงการภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบุคลากรในสังกัดร่วมกันดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้โครงการพัฒนาต่างๆ ที่จะดำเนินการในพื้นที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถแก้ไขปัญหาและพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนได้อย่างแท้จริง

วันเดียวกัน มีรายงานว่า กลุ่มไลน์ “มหาดไทยสัมฤทธิผล” ที่นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยนายกฤษฎาได้ส่งข้อความผ่านไลน์ถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบลและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ ระบุว่าขณะนี้รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ทำงานสำคัญ เช่น การดูแลช่วยเหลือเกษตรกร-ชาวนา ชาวสวนยาง การจัดสรรน้ำกิน น้ำใช้ และน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งทราบว่าพวกท่านทำงานอย่างเข้มแข็ง เสียสละ จึงขอขอบคุณทุกท่าน ทั้งนี้ขอฝากย้ำงานสำคัญ 3 เรื่อง ให้พวกเราช่วยกันดูแล อย่าให้บกพร่อง

1. งานโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท อย่าให้เกิดการทุจริต เรียกรับเงินทองผลประโยชน์โดยมิชอบอย่างเด็ดขาด และขอยืนยันว่าไม่มีผู้บังคับบัญชาไปขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด/นายอำเภอไปหักเงินเปอร์เซ็นต์

2. เรื่องการป้องกันไฟป่าหมอกควัน ขอให้พวกเราร่วมกับนายอำเภอ/อบต.เทศบาล/อบจ.หน่วยงานป่าไม้/หน่วยป้องกันรักษาอุทยาน/ตำรวจ/ทหารและภาคประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่ร่วมมือกันและแบ่งพื้นที่-ความรับผิดชอบ อย่าให้มีการเผาป่าอีก

3. เรื่องภัยแล้ง ซึ่งปีนี้คาดว่าจะแล้งนานกว่าทุกปี ดังนั้นจึงขอให้จัดประชุมหรือประชาสัมพันธ์ให้ช่วยกันประหยัดการใช้น้ำ นำน้ำไปแจกจ่ายในพื้นที่ที่ขาดแคลน และรณรงค์ปลูกพืชใช้น้ำน้อย

กลุ่มไลน์มหาดไทยระบุด้วยว่า และเนื่องจากขณะนี้มีการปล่อยข่าวลือและเรื่องเท็จต่างๆ ไปในหมู่บ้าน/ตำบลหลายเรื่อง อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความแตกแยก จึงขอให้กำนัน/ผู้ใหญ่บ้านได้ประชุมชี้แจงลูกบ้านให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้องด้วย หากมีข้อสงสัยในเรื่องใดให้สอบถามจากนายอำเภอหรือข้าราชการได้ ที่สำคัญขอให้กำนัน/ผู้ใหญ่บ้านได้ไปประชุมประจำเดือนร่วมกับนายอำเภอและส่วนราชการที่อำเภอ โดยให้นำปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับข่าวลือต่างๆ และเรื่องความเดือดร้อนของลูกบ้านที่กำนัน/ผู้ใหญ่บ้านแก้ไขไม่ได้แจ้งในที่ประชุม อีกทั้งให้นำข้อราชการต่างๆ จากนายอำเภอและส่วนราชการไปประชุมแจ้งลูกบ้านด้วย

“ผมทราบดีว่างานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านข้างต้นนั้นบางครั้งอาจทำให้พวกเราเหนื่อยและท้อแท้ จึงขอให้ได้นำแนวทางการทรงงานและพระราชจริยวัตรของพระองค์มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่” ไลน์ดังกล่าวระบุ