อดีต ส.ส.ปชป ย้อน รมว.ยธ.อ่าน ม.21 พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ คดี พ.ต.ท.จันทร์ เป็นคดีพิเศษได้ ถามคดีสลับซับซ้อน สะเทือนขวัญความสงบ เอี่ยวผู้มีอิทธิพลหรือไม่ แจงเจตนารมณ์ พ.ร.บ.เพื่อให้มีองค์กรปรามอาชญากรรมพิเศษ ไม่ได้ก้าวก่าย สตช. สร้างมาตราฐานปกครองยุค คสช. ย้อน ตร.ขู่เล่นงาน ปชช.แชร์ภาพศพ ยันไม่ผิดเชื่อมีเจตนาดี
วันนี้ (16 ก.พ.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ระบุว่าคดีของ พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ เลขาธิการสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติเป็นคดีพิเศษไม่ได้ เพราะจะก้าวก่ายกับการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า ขอให้ พล.อ.ไพบูลย์อ่าน พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 21 ที่บัญญัติว่าคดีพิเศษนั้น (1) ก.คดีความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อนจำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ ข. คดีที่อาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อย หรือ ง. คดีที่มีผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญเป็นตัวการ ผู้ใช้หรือผู้สนับสนุน ซึ่งคดีจัดฉากฆ่า พ.ต.ท.จันทร์ แล้วนำศพมาแขวนเพื่อให้ดูว่าผูกคอตายนั้น สภาพศพขัดแย้งอย่างสิ้นเชิง เพราะเท้ายืนติดพื้น ลิ้นไม่จุก ไม่ดิ้นงอเข่า มีร่องรอยของการทำร้ายร่างกาย ภาพที่เผยแพร่ในสื่อคงไม่มีใครไปตัดต่อ
“ผู้ตายไปคัดค้านคำสั่งตาม ม.44 เมื่อวันที่ 8 ก.พ.แล้วถูกนายบีบ วันรุ่งขึ้นบ่ายๆ ก็หายตัวไป ติดต่อไม่ได้สองวัน เช้าวันที่ 12 ก.พ.ก็พบศพอยู่หลังบ้าน โทรศัพท์และกุญแจบ้านหายไป สลับซับซ้อนหรือไม่ สะเทือนขวัญต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมหรือไม่ และเกี่ยวพันกับผู้ทรงอิทธิพลหรือไม่ พนักงานสอบสวนขนหัวลุกกันทั้งประเทศแล้ว ขนาดตำรวจไปงานศพ พ.ต.ท.จันทร์ที่วัดหนังยังกลัวถูกอุ้ม ชาวบ้านทั่วไปขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้ว ท่านรัฐมนตรีไม่รู้สึกบ้างหรืออย่างไร”
นายวัชระกล่าวต่อว่า พล.อ.ไพบูลย์อาจไม่ทราบว่าเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษที่สภาอนุมัติมาบังคับใช้เพื่อต้องการให้มีองค์กรในการปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่สามารถดำเนินการทางคดีตามปกติได้ จึงต้องมีองค์กรปราบปรามอาชญากรรมพิเศษแห่งนี้ขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่ รมว.ยุติธรรม ยังไม่รับรู้ถึงความรู้สึกหวาดกลัวภัยมืดในสังคมเวลานี้ ถ้า พล.อ.ไพบูลย์สั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าคลี่คลายคดีนี้ สังคมจะอุ่นใจว่ามีที่พึ่ง ที่เชื่อถือได้ และไม่ใช่เป็นการก้าวก่าย สตช. อย่างที่ รมว.ยุติธรรมเข้าใจ แต่เป็นการสร้างมาตรฐานให้เห็นว่า การปกครองประเทศในยุค คสช.นี้เป็นไปโดยหลักนิติธรรม และไม่มีอำนาจมืดใด
“ผมไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง แต่ทำหน้าที่ผู้แทนฯ นอกสภาฯ ที่สำคัญคือ พ.ต.ท.จันทร์ ส่งไลน์ถึงผมโดยตรงก่อนหายตัวไปว่า ฝากบอกนายกฯ ด้วย ผมก็ต้องทำหน้าที่ แม้ว่าเสี่ยงต่ออันตรายก็ตาม เราต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนในยามหน้าสิ่วหน้าขวานนี้”
ส่วนกรณี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.ออกมาขู่คนที่นำภาพศพ พ.ต.ท.จันทร์ เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตว่าสภาพศพมีบาดแผลและส่อพิรุธนั้น นายวัชระกล่าวว่า ตนเชื่อว่าคนส่งภาพมีเจตนาบริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา หากภาพไม่มีการตัดต่อ และเปิดเผยความจริงให้สังคมรับรู้ จริงๆ แล้วตำรวจต้องขอบคุณพลเมืองดีเหล่านี้ด้วยซ้ำไม่ใช่ไปข่มขู่ว่าจะเล่นงานตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และยืนยันว่าไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ แน่นอน ละหากใครถูกตำรวจแจ้งความดำเนินคดีในเรื่องนี้ ตนในฐานะประธานทนายความรุ่น 16 ของสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ และเพื่อนๆ ทนายอาสาจะเป็นทนายความให้ฟรี และฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เพราะตั้งแต่พบศพ พ.ต.ท.จันทร์ผ่านมา 4-5 วันแล้ว ตนยังไม่เห็นตำรวจบอกชาวบ้านที่เห็น หรือรู้เบาะแสให้แจ้งตำรวจเพื่อคลี่คลายคดีเลยแม้แต่คำเดียว มีแต่ท่องว่าผูกคอตายซ้ำซาก ประชาชนสงสัยมากกว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้