บาปกรรม! “หม่อมปนัดดา” ส่ง เลขานุการ รมต. แจ้งความเอาผิดคนแอบอ้างชื่อ ปรากฏในรายการ “คนค้นธรรม” ย้ำ เป็นการกล่าวเท็จ ให้ร้าย เผย อดีตที่ปรึกษา ผอ.อ.ต.ก. เข้าให้การตำรวจเพิ่มเติม หลังถูกกล่าวหา “ฉ้อโกง” กรณีแอบอ้างชื่อ “บิ๊กป้อม - นายกฯ” ไปเรียกรับผลประโยชน์
วันนี้ (10 ก.พ.) มีรายงานว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 59 กรณีมีบุคคลแอบอ้างชื่อ ปรากฏในรายการ “คนค้นธรรม” ตอนขอความเป็นธรรมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เรียกรับทรัพย์ ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์โลกพระพุทธศาสนาฯ (WBTV) โดยสัมภาษณ์ผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับการค้าข้าว ว่า สามารถช่วยนำข้าวเสื่อมสภาพออกมาให้ได้ โดยอ้างว่าจะนำปลาสวยงามซึ่งมีมูลค่า 1.5 แสนบาท ไปมอบให้เป็นการตอบแทน
ด้าน ม.ล.ปนัดดา กล่าวยอมรับว่า ได้มอบหมายให้เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปลงบันทึกประจำวัน ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด เป็นการกล่าวเท็จ ให้ร้าย และบาปกรรมตามหลักพุทธศาสนาของคนไทย
มีรายงานว่า เมื่อปลายเดือนมกราคม ม.ล.ปนัดดา ยอมรับว่า มีคนเล่าเรื่องที่ตนถูกแอบอ้างชื่อให้ฟังแล้ว ยืนยันว่า ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ และไม่เคยได้รับปลาสวยงาม ยังงงว่ามีชื่อตนได้อย่างไร
มีรายงานว่า คดีนี้จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยระหว่างร่วมงานสถาปนา 58 ปี ของโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า มีผู้แอบอ้างชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม และตนเองไปเรียกรับผลประโยชน์กับส่วนราชการต่าง ๆ ในการพิจารณาโครงการต่าง ๆ ทำให้เกิดความเสียหาย ต่อมา พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัวผู้ที่แอบอ้างชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 มกราคม กก.1 บก.ป. ได้รับตัว ดร.เดชจรัส ชาญรัตน์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาฐานพยายามฉ้อโกง ก่อนนำตัวขออำนาจศาลฝากขังศาลแขวงพระนครเหนือ ทั้งนี้ เบื้องต้น ดร.เดชจรัส ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใด ๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน ขอให้การแค่ในชั้นศาล และได้ขอประกันตัวในชั้นศาล โดยศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
ทั้งนี้ ในส่วนขั้นตอนการดำเนินการนั้น พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้ดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหาย อีกทั้งต้องให้พนักงานสอบสวนเชิญ ดร.เดชจรัส มาสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนของการตั้งข้อกล่าวหาฐานพยายามฉ้อโกงนั้น เนื่องจากมีการหลอกลวงผู้เสียหาย และผู้เสียหายหลงเชื่อแล้ว แต่ยังไม่ได้ส่งมอบของให้กัน ถือว่าการกระทำความผิดยังไม่สำเร็จสมบูรณ์นั่นเอง
สำหรับ ดร.เดชจรัส นั้น ถูกกล่าวหาในคดีพยายามฉ้อโกง หลังร่วมกับพวกอีก 3 ราย เป็นนายทหารและพลเรือน (เสธ.หนึ่ง และ เสธ.เปี๊ยก) หลอกผู้เสียหายว่ารู้จักบุคคลสำคัญในรัฐบาล รวมทั้งกล่าวอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นให้ดำเนินการโครงการต่าง ๆ ได้ อาทิ โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี โครงการตามงบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งมีข้าวเสื่อมคุณภาพ จำนวน 3 แสนตัน มาขายให้ในราคาถูกมาขายในราคาถูก เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ก่อนวันที่นายกฯ จะให้สัมภาษณ์ในช่วงคืนวันที่ 25 ม.ค. มีการเผยแพร่คลิปรายการ “คนค้นธรรม” ตอน “ขอความเป็นธรรมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เรียกรับทรัพย์” ผ่านยูทิวบ์ และช่อง WBTVwatyannawa โดยทางรายการได้สัมภาษณ์ผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับค้าข้าว และสัมภาษณ์หนึ่งในทีมงานของขบวนการหลอกลวงที่มี เสธ.เปี๊ยก และ เสธ.หนึ่ง เป็นตัวละครสำคัญที่ไปเรียกรับผลประโยชน์ ขณะที่ผู้ร่วมทีมงานของ เสธ.หนึ่ง ระบุว่า เสธ.หนึ่ง ได้ให้ตนเองนำผู้เสียหายไปพบกับด็อกเตอร์รายหนึ่ง ระบุว่า เป็นที่ปรึกษา ผอ.อ.ต.ก. ทำให้ผู้เสียหายไว้เนื้อเชื่อใจมากขึ้น แต่ในที่สุดเมื่อตนเห็นผู้เสียหายเสียเงินจำนวนมาก จึงกลับใจและให้การช่วยเหลือ