นายกรัฐมนตรีขอบคุณข้าราชการร่วมมือ ขอสลายสีลดอัตตารวมเป็นหนึ่ง งงปล่อยแก๊งปลอมพาสปอร์ตมาได้ยังไงถึง 25 ปี รับภัยก่อการร้ายสำคัญ ระวังพวกสุดโต่ง จี้แจงต่างชาติหลังพบมีคนบอกอันตรายที่สุดในอาเซียน ชี้แก้ปมหนี้ต้องเริ่มที่ตัวเอง ส่วนแก้แรงงานสำเร็จไปมาก ติงไม่ได้ให้คะแนนตกแต่งสถานที่ต้อนรับสวย บี้เอาผิดรีสอร์ตรุกป่า ยันไม่ฝืนประชาธิปไตย รับโมโหง่ายพร้อมปรับปรุง หนุนขึ้นค่าบุหรี่ ขอชาวบ้านอย่าโง่เสพสิ่งไม่บริสุทธิ์ ขอบคุณ สปท.-สนช.-กรธ. วอนดูเจตนาร่าง รธน.ไม่ใช่คิดเพื่อสืบทอดอำนาจ
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2558 และแถลงแผนงานปฏิบัติงาน ประจำปี 2559 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย คณะกรรมการ กอ.รมน. หน่วยงานขึ้นตรง กอ.รมน. เข้าร่วม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณข้าราชการทุกคนที่ร่วมมือการทำงานมาตลอดปีที่ผ่านมา พร้อมฝากให้ข้าราชการสลายสีรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ลดอัตตา แล้วจึงนำประชาชนมาร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง และบูรณาการร่วมกับกลุ่มงานอื่นเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งยังย้ำเตือนต้องไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริต ยืนยันส่วนตัวเชื่อมั่นในข้าราชการทุกคน สำหรับการจับกุมขบวนการลักลอบปลอมแปลงพาสปอร์ตที่ทำในไทยมากว่า 25 ปีนั้น เพราะมีการปล่อยปละละเลย ให้มีการกระทำเช่นนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าปล่อยมาได้อย่างไร ดังนั้นในระหว่างที่รัฐบาลนี้ ทำหน้าที่อยู่ จะต้องเคลียร์ประเทศให้ได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับปัญหาการก่อการร้ายนั้น วันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในด้านความมั่งคง อย่าคิดว่าบ้านเราปลอดภัย เพราะไม่มีประเทศใดในโลกที่ปลอดภัย ดังนั้น รัฐบาลกำลังจัดเตรียมเทคโนโลยีและกล้องจับใบหน้าให้พอเพียงเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และอยากให้ระวังพวกสุดโต่งเพราะไม่อยากให้ประเทศไทยเป็นคู่ขัดแย้ง และทำตัวเป็นประเทศมีทางเลือก มีอิสระแต่ต้องทำตามพันธสัญญาโลก เวลาตนเดินทางต่างประเทศมีคนบอกว่าในไทยมีผู้ก่อการร้ายในประเทศและอันตรายที่สุดในอาเซียน เพราะนำแต่เรื่องปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาตัดสิน แต่ความจริงแล้วประเทศไทยมีถึง 77 จังหวัด จะไปพูดแบบนั้นไม่ได้และฝ่ายความมั่นคงต้องไปชี้แจงปล่อยไว้ได้อย่างไร ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้วกับชาวต่างชาติบางส่วนว่าบ้านเมืองเราเป็นแบบนี้จะให้ทำอย่างไร ต่างชาติบอกว่าคิดไม่ออก ให้เวลา 10 ปีก็คิดไม่ออก เพราะคนไทยไม่เหมือนใคร อยากปลอดภัยแต่ไม่อยากให้บังคับใช้กฎหมาย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบต้องมีการทำบัญชีรายจ่าย และที่สำคัญเริ่มแก้ไขปัญหาตนเอง และสร้างความเข้มแข็งในการลดหนี้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เพราะจะเป็นเช่นเดียวกับหนี้ครูที่มีสูงถึง 2 ล้านล้านบาท และยังมีหนี้สินของเกษตรกร ถ้าหนี้นำมารวมกันขายประเทศซัก 10 รอบก็ยังใช้ไม่หมด ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวมีความสำเร็จไปมาก ขณะนี้มีแรงงานจดทะเบียน 2 ล้านคนแล้ว เรื่องดังกล่าวควรทำให้ถูกกฏหมายและร่วมกับกับประเทศเพื่อนบ้านในการร่วมกันตรวจสอบ แต่ในประเทศจะต้องพัฒนาฝีมือแรงงานให้ได้ รวมถึงเรื่องค้ามนุษย์จะต้องแก้ไข เช่น การทำการประมงผิดกฏหมาย ซึ่งรัฐบาลได้ติดตามมาโดยตลอดและตนจะไล่ติดตามของทุกหน่วยงาน เพราะที่มาผ่านมามีการส่งเพียงการแก้ไขกฏหมาย แต่ไม่ได้เสนอลงรายละเอียดในทางปฏิบัติ ต่อไปนี้ถ้ามีประชุมไม่ต้องสรุปเรื่องการแก้ไขปัญหาด้วยกฏหมาย เพราะกฏหมายต้องผ่านหลายขั้นตอน แต่ตนต้องการรู้ว่าการทำงานทำอย่างไร มีปัญหาหรือไม่ และการทำทุกอย่างจะต้องตอบคำถามไอยูยูได้ทั้งหมด ตลอดจนเวลาตนไปไหนหน่วยงานราชการไม่ต้องตกแต่งสถานที่อะไรต้อนรับ เพราะตนไม่ได้ให้คะแนนความสวยงามแต่ดูที่เนื้องานมากกว่า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวกำชับให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเอาผิดและจับกุมผู้ที่สร้างรีสอร์ตที่บุกรุกในพื้นที่ป่าอุทยานให้หมดสิ้น ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถรักษาผืนป่าเอาไว้ด้วย เมื่อทรัพยากรป่าลดลงก็จะเกิดผลกระทบตามมาโดยเฉพาะปัญหาเรื่องของน้ำ จึงต้องบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวตอนหนึ่งว่า ต่างชาติบอกให้ไทยกลับมาสู่ประชาธิปไตยและเลือกตั้งโดยเร็ว ซึ่งตนจะเร่งให้ตามโรดแมป แต่ต่างชาติอาจไม่เข้าใจแต่ทุกคนต้องสร้างความเข้าใจในทุกมิติ พร้อมยืนยันว่าไม่ฝืนประชาธิปไตย ส่วนรัฐธรรมนูญมีปัญหาอย่างไร หรือจะอยู่ในบทเฉพาะกาลหรือไม่ให้ไปคิดมา อย่าดูว่าสากลหรือสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะต้องเป็นสากลอยู่แล้ว อีกทั้งการปรองดองต้องเริ่มด้วยตัวเอง ถ้าไม่พูดเรื่องการเมืองก็ปรองดองได้หมด เพราะการเมืองเป็นเรื่องของความเห็นต่าง ถ้าร่วมมือกันไม่ได้ 10 ชาติก็ปรองดองไม่ได้ จะร่างกฎหมายก็มีการปรองดองก็ไม่ได้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการแสดงออกเรื่องการใช้อารมณ์ของตนเอง โดยยอมรับว่ามีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ส่วนตัวก็ได้พยายามปรับปรุงแก้ไขตัวเองแล้ว แต่ก็ต้องขอให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย ทหารโมโหง่าย แต่ก็พร้อมปรับปรุงแก้ไข ส่วนตำรวจก็ต้องทำตนให้เป็นที่รักของประชาชนให้ได้ ต้องทำงานด้านมวลชน ควบคู่กับงานประจำที่ต้องบังคับใช้กฎหมายให้ได้
ส่วนเรื่องการขึ้นภาษีบุหรี่ของกระทรวงการคลังที่มีผลบังคับใช้ในวันนี้ (10 ก.พ.) นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า บุหรี่ขึ้นราคาซองละ 5-10 บาท แต่ก็ยังไม่เลิกเพราะถือเป็นว่าสุขของคนจน เหล้าก็เช่นกัน หากจะเลิกก็ต้องเลิกด้วยตนเอง กฎหมายคงทำอะไรไม่ได้ แต่ส่วนตัวเห็นด้วยในการขึ้นราคาเพื่อให้คนลดการสูบบุหรี่ แต่คงไม่สามารถห้ามได้เพราะจะกระทบต่อการค้ากับต่างประเทศ ขอประชาขนอย่าโง่ เสพอะไรที่ไม่บริสุทธิ์ ก่อนสูบดูด้วยว่ายัดอะไรสกปรกโสโครกมา ติดไปแล้วตายทุกคน พอเลิกก็เป็นหนี้ อย่างดื่มเหล้าก็เมาหัวทิ่ม ไม่มีเงินจ่ายก็ยังยอมเป็นหนี้อีก
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีขอบคุณ สปท., สนช., กรธ. ที่ตนได้ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกิดการปฏิรูปที่จะต้องเริ่มจากทุกวันนี้ ระยะที่ 1 ที่ผ่านมาทุกฝ่ายก็รวมกันทำมาตลอด และระยะต่อไปก็ต้องกำหนดแผนเรื่องการปฏิรูป ให้สอดคล้องให้นำไปใส่ไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และในเรื่องรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี อยากให้ดูเรื่องเจตนาการร่างขึ้นมาว่าเพื่ออะไร ไม่ใช่คิดว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจ นอกจากนี้ยังได้ถามผู้เข้าร่วมประชุมว่า ได้ฟังเพลงคนดีไม่ได้วันตนแล้วหรือไม่ พร้อมระบุว่าไม่ใช่แปลว่าเป็นคนดีแล้วจะไม่ตาย แต่คนดีจะไม่ตายไปจากความทรงจำของคน
โดยนายกรัฐมนตรีได้โชว์แผนภูมิความเชื่อมโยงของแม่น้ำ 5 สาย เพื่อแจกให้กับหน่วยงานราชการ นำไปพิจารณา ปรับแผนงาน เพื่อให้สอดคล้องกับงานในรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายด้วยรวมทั้ง ยังขอให้ กอ.รมน. ดำเนินแผนงานให้เข้าถึงระดับกำนันผู้ใหญ่บ้านในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยสื่อสารสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินงาน ให้ลงถึงประชาชนให้มากที่สุดด้วย
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า วันนี้เป็นการสรุปผลงานในปี 2558 และอนุมัติแผนการปฏิบัติงานในปี 2559 โดยต้องทำงานทุกอย่างให้เกิดผลสัมฤทธิ์ให้ได้โดยเร็วในทุกกิจกรรมของ กอ.รมน.ควบคู่ไปกับการทำงานของ ศอ.บต.ทั้งด้านความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การบังคับใช้กฎหมายกับการพัฒนานำไปสู่ความมีสันติสุขอย่างยั่งยืน รายละเอียดได้สั่งการไว้ทั้งหมดแล้วและมอบหมายให้ ผบ.ทบ.เป็นผู้ชี้แจงในเรื่องดังกล่าว