“สุวัจน์” จัดวันเกิด 61 ปี นักการเมืองแห่อวยพรคับคั่ง วอนทุกฝ่ายเปิดใจกว้าง-เคารพกติกา ขอดูร่างรัฐธรรมนูญสุดท้ายก่อนตัดสินใจหนุน-คว่ำ โววงการเทนนิสยังแน่นแฟ้น เชื่อไร้ปัญหาสายตานานาชาติ
วันที่ 9 ก.พ. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนา และรองประธานอาวุโสสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย ได้เปิดบ้านพักย่านราชวิถี เพื่อให้บุคคลเข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 61 ปี โดยมีนักการเมือง ข้าราชการ คนในวงการกีฬา และภาคธุรกิจ เข้าร่วมอวยพร โดยเฉพาะนักการเมืองที่มากันอย่างคับคั่ง เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายศิริโชค โสภา รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง แกนนำพรรคชาติไทย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ กปปส. และนายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ โฆษกมูลนิธิ กปปส. เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย และนักเทนนิสชุดเฟดคัพ เดินทางมาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวัจน์ได้มอบของที่ระลึกเป็นพระยอดธงรุ่นที่ 9 รุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ปลุกเสกก่อนมรณภาพ และเจ้าพ่อเห้งเจีย วัดไตรมิตรฯ ให้กับแขกที่มาร่วมงานด้วย
ช่วงหนึ่ง นายสุวัจน์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกที่ออกมาว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความเห็น และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) คงอยากรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อสรุปและแก้ไข ตอนนี้การแสดงความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ ที่มีความเห็นต่างกันถือเป็นเรื่องปกติ ถือว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.อยู่ในวงการนี้มานาน ตนเชื่อมั่นในตัวนายมีชัย ขณะเดียวกันในส่วนของนักการเมืองเองก็มีประสบการณ์จึงได้แสดงความเห็น และตนเองอยากเห็นทุกฝ่ายร่วมมือกัน และอยากเห็นบรรยากาศแบบมิตรภาพเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ทุกฝ่ายควรจะเปิดใจกว้าง แสดงความคิดเห็น และรับฟังกันอย่างสร้างสรรค์ เพราะที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในการทำประชามติ จึงอยากให้รักษาบรรยากาศดีๆ เอาไว้ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดในภาวะพิเศษที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าควรจะปฏิรูป สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่เป็นกลางเพื่อจะได้ตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่รับ
เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วงประเด็นในร่างรัฐธรรมนูญใดมากที่สุด นายสุวัจน์กล่าวว่า ตนรู้ดีว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดขึ้นในบรรยากาศที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศ และมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะ จึงเชื่อว่าจะมีกลไกให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้เดินไปได้ เวลานี้ร่างรัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จสิ้นจะมีการแก้ไข ดังนั้น การแก้ไขจะต้องแก้ให้เดินทางสายกลางไม่แก้ให้ง่ายเกินไป หรือแก้ให้ยากจนเกิดภาวะทางตัน พื้นฐานของคนในประเทศคิดต่างกัน ต้องหาจุดที่เหมาะสมร่วมกัน สอดคล้องกัน ให้การยอมรับ แต่คงไม่ใช่งานง่าย ทุกคนก็คงเอาใจช่วย หากเดินหน้าตามโรดแม็ปเชื่อว่าจะเดินหน้าประเทศไทยได้
“เหมือนการเล่นการกีฬาที่ต้องอยู่ในกติกาและกติกานั้นเป็นที่ยอมรับของประชาชน และเมื่อผมเป็นผู้เล่นก็ต้องเล่นตามกติกา ไม่ว่าผลร่างรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นอย่างไร เมื่อประชาชนตัดสินใจแล้วผมก็พร้อมจะยอมรับกติกานั้น ส่วนตัวผมรู้ดีว่ารัฐธรรมนูญรู้ดีว่าต้องการอะไร และผมเองก็ต้องรักษากติกา ถ้าประชาชนเห็นด้วยผมก็รับได้ ร่างรัฐธรรมนูญต้องดีและประชาชนยอมรับ ผมอยากให้เปิดการแสดงความเห็นกันเยอะๆ แบบสร้างสรรค์ นักการเมืองก็ควรจะใช้ประสบการณ์ที่มีถ่ายทอดออกมา ขณะเดียวกัน กรธ.ก็ต้องเปิดใจกว้าง โดยต่างคนต่างช่วยกัน” นายสุวัจน์กล่าว
เมื่อถามว่า เร็วไปหรือไม่ที่จะออกมาบอกว่ารับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในขณะนี้ นายสุวัจน์กล่าวว่า ยังมีเวลา ต้องดูกติกาคือร่างสุดท้ายก่อน ทุกพรรคคงมีความพร้อมเลือกตั้งแล้วแต่ต้องวางแผนตามกติกาที่ใช้ หากเลือกตั้งแล้วพรรคการเมืองควรหันหน้าพูดคุยกัน ลดความขัดแย้ง เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งต่างๆแบบในอดีต เราจะได้เดินหน้าประเทศได้ทั้งนี้อยากเห็นคนรุ่นใหม่นักการเมืองใหม่ๆ เข้ามาทำงาน เพื่อมาเป็นทรัพยากรที่มีค่าต่อไป ส่วนตัวตอนนี้ไม่ได้อยากเป็นอะไรหรือมีตำแหน่งอะไรแล้ว
ส่วนประเด็นความขัดแย้งในการเลือกตั้งนายกสมาคมลอนเทนนิสฯ ที่ผ่านมา นายสุวัจน์กล่าวว่า ทุกคนในวงการเทนนิสมีความรักความสามัคคีกันหมด การเลือกตั้งตอนนี้ก็เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับข้อบังคับทางกฎหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อตัดสินออกมาอย่างไรก็ไม่น่ามีผลกระทบหรืออะไรทั้งสิ้น และต้องปล่อยให้เป็นกระบวนการของการเลือกตั้งและผู้เกี่ยวข้องพิจารณากันต่อไป
“ผมอยู่ในวงการเทนนิสมานาน และปัจจุบันเป็นรองประธานเทนนิสแห่งเอเชีย ดังนั้นอะไรที่จะช่วยให้วงการกีฬาหรือวงการเทนนิสดีขึ้นได้ ก็พร้อมและยินดีทำได้ทุกสถานภาพ ทั้งนี้ผมอยากเห็นความต่อเนื่องไปในทางที่ดี ส่วนปัญหาอะไรต่างๆ ไม่ได้มองว่าจะเป็นประเด็นอะไร เป็นเพียงแต่ว่าการรับรองผลการเลือกตั้ง มีกฎมีกติกาอะไรก็เป็นเรื่องขององค์กรเท่านั้น” นายสุวัจน์กล่าว
เมื่อถูกถามถึงปัญหาว่าการเลือกตั้งครั้งล่าสุดจะส่งผลให้สหพันธ์เทนนิสเอเชีย (เอทีเอฟ) ยกเลิกการจัดแคมป์พัฒนากีฬาเทนนิสระดับนานาชาติในประเทศไทย รวมทั้งมีคำสั่งให้ย้ายการจัดกิจกรรมอื่นๆ ของเอทีเอฟที่มีกำหนดจัดที่ประเทศไทยไปจัดขึ้นที่ประเทศอินเดียแทนหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า ขณะนี้เอทีเอฟออกหนังสือไปถึงสมาชิก 2 ฉบับ แสดงความห่วงใยและกังวลเพราะเขากับประเทศไทยผูกพันกันมาก อีกทั้งยังมีสำนักงานอยู่ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งเอเชีย ตั้งอยู่ที่ประเทศไทยด้วย อย่างไรก็ตาม เขาคงต้องไปพิจารณาดูว่าจะกำหนดท่าทีอย่างไรต่อไป เพราะขณะนี้เราได้รับทัวร์นาเมนต์ต่างๆ มาอยู่ที่ประเทศไทยจำนวนมาก แต่คงจะไปตอบแทนไม่ได้ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร