นายกรัฐมนตรีประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ด้าน รมว.ไอซีที เผยชงร่างแผนพัฒนาแล้ว สู่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเต็มศักยภาพ แบ่งเป็น 4 ระยะใน 20 ปี ขับเคลื่อนดิจิตอลไทยแลนด์ 6 ด้าน ขยายฟรีไวไฟหมื่นจุด ทำอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึง 3 หมื่นหมู่บ้าน มี.ค. 60 ขยายความจุเคเบิลใต้น้ำ สร้างเอสเอ็มอีชุมชนออนไลน์หมื่นราย ทำระเบียนสุขภาพ 4 จังหวัด เร่งผลิตแอปสอนภาษาอังกฤษ พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 1/2559 จากนั้นเวลา 12.35 น. นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แถลงผลประชุมว่า ไอซีทีได้เสนอร่างแผนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมต่อคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยร่างแผนฯ ฉบับนี้นำไปสู่ดิจิตอล ไทยแลนด์ซึ่งนำไปใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม ข้อมูล และทรัพยากรอื่นๆ โดยแผนพัฒนาดิจิตอลฯ ได้แบ่งการพัฒนาไว้ 4 ระยะ ภายใน 20 ปี เริ่มจากการสร้างรากฐานด้านดิจิตอลอย่างเต็มศักยภาพ อีกทั้งแผนปฏิรูปดังกล่าวมีการขับเคลื่อนดิจิตอลไทยแลนด์ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิตอลประสิทธิภาพสูงให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 2. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล 3. สร้างสังคมคุณภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล 4. ปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิตอล 5. พัฒนากำลังคนให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิตอล 6. สร้างความเชื่อมั่นในการใช้เทคโนโลยี
นายอุตตมกล่าวว่า ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปี 6 เดือนแรกซึ่งเป็นระยะเวลาของการวางรากฐานดิจิตอลของประเทศให้พร้อม เพื่อเตรียมตัวก้าวกระโดดไปช่วงถัดไป อีกทั้งกระทรวงไอซีทีเร่งดำเนินการหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 4 ด้าน เช่น ด้านการขยายโครงสร้างพื้นฐาน มีฟรีสัญญาณไวไฟ 10,000 จุดทั่วประเทศ บรอดแบนด์ หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในการเข้าถึงหมู่บ้าน ภายในเดือนมีนาคม 2560 และมีการขยายความจุของเคเบิลใต้น้ำเป็น 2 เท่า ด้านเศรษฐกิจ มีการดำเนินการให้วิสาหกิจชุมชนและธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อในการทำธุรกิจสร้างร้านค้าสินค้าออนไลน์ชุมชนอย่างน้อย 10,000 ราย ด้านสังคมจะมีการพัฒนาระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลนำร่องก่อนใน 4 จังหวัด 600 แห่งทั่วประเทศ และที่สำคัญทางรัฐบาลมีการเปิดตัวโมบายแอปพลิเคชันสอนภาษาอังกฤษแก่ประชาชนที่นายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งด่วน ภายใน 1 เดือนนี้ด้วย ส่วนทางด้านภาครัฐ มีบริการภาครัฐในรูปแบบสมาร์ทเซอร์วิสเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ถึง 79 บริการ
นายอุตตมกล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ที่ประชุมเห็นชอบการพัฒนาข้อมูลในประเทศ หรือดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและลดค่าใช้จ่ายถึงร้อยละ 30 รวมถึงเพิ่มการใช้งานที่จากเดิมมีการใช้เพียงแค่ 16% โดยดึงเอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาระบบร่วมพัฒนาระบบให้มีมาตรฐานและความมั่นคง ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้กระทรวงไอซีทีได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานฟรีสัญญาณไวไฟ 10,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อให้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุม 30,000 หมู่บ้านภายในมีนาคม 2560 ที่จะช่วยรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น และนำเนื้อหาสาระทางการศึกษาขยายในทุกพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดปฏิบัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิตอล ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการสื่อสารโดยเฉพาะความมั่นคงการจัดการภัยพิบัติระหว่างภูมิภาคที่จะต้องให้เกิดความร่วมมืออย่างจริงจัง