รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เผย นายกฯ สั่งให้ ครม. กลับไปอ่านร่างรัฐธรรมนูญ และเสนอความเห็นภายใน 10 ก.พ. พร้อมหารือ กกต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับมือการทำประชามติ และบทลงโทษกรณีขัดขวางสัปดาห์หน้า แต่ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ย้ำต้องเลือกตั้ง ก.ค. 60 ให้ได้ และมีหมวดการปฏิรูปเพิ่มขึ้น และหากลไกหากหลังเลือกตั้งบ้านเมืองไม่เรียบร้อย
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชี้แจงรัฐธรรมนูญร่างแรกของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ว่า ตนได้สรุปรัฐธรรมนูญร่างแรกของ กรธ. หลังจากมีการแจกร่างรัฐธรรมนูญให้ ครม. โดยได้ชี้แจงว่า มีกี่หมวด กี่มาตรา แต่ละหมวดมีจุดเด่นอะไร และอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีมติ 3 ข้อ คือ 1. รับทราบตามที่ตนได้เสนอ
2. ให้ ครม. กลับไปอ่านร่างรัฐธรรมนูญ หรือให้เจ้าหน้าที่ในกระทรวงช่วยอ่าน แล้วทำความเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งมายังตน ภายในวันที่ 10 ก.พ. ตนจะใช้เวลา 3 - 4 วัน หลังจากนั้น เชิญเจ้าหน้าที่หน่วยงานกลาง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานอัยการสูงสุด มาช่วยดู จากนั้น ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งไปยัง กรธ. โดยตนจะต้องทำเรื่องส่งนายกรัฐมนตรี ให้ลงนามก่อนส่ง แต่ถ้าตรงกับช่วงที่นายกฯ ต้องเดินทางไปประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน - สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14 - 18 ก.พ. ก็ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ลงนามในนามของ ครม. แทน ส่วนในนาม คสช. จะทำความเห็นไปหรือไม่ ให้แยกไปต่างหาก
3. การทำงานอาจพบปัญหา เช่น การทำประชามติ หรือปัญหาเรื่องอื่นที่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีอยู่ ครม. มอบหมายให้ตนไปหารือกับบางหน่วยงาน เช่น กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า จะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งความชัดเจนในที่นี้ คือ เรื่องประชามติ สุดท้ายจะใช้ครึ่งหนึ่งของผู้ทีสิทธิ์ออกเสียง หรือผู้มาใช้สิทธิ์ หรือเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับการทำประชามติ เช่น ต้องการมีบทลงโทษ กรณีฉีกบัตร ทำลายหีบบัตรเลือกตั้ง ตนจึงได้นัด กกต. สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และตัวแทน กรธ. หารือถึงปัญหาทั้งหมดต้นสัปดาห์หน้า
เมื่อถามว่า การรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญทำได้หรือไม่ มีความผิดหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ผมยังตอบไม่ถูก แต่ถ้าจะเอาผิดมันมีวิธี” และตนไม่ได้บอกว่าการแสดงความคิดเห็นทางใดทางหนึ่งทำได้หรือไม่ได้ ต้องมาถามกันในที่หารือกันว่าจะทำอย่างไร เราเคยทำการประชามติเมื่อปี 2550 มาแล้วก็มีหลักเกณฑ์อยู่ ก็ไม่น่าจะพิสดารกว่านั้น
เมื่อถามอีกว่า การทำให้การทำประชามติชัดเจน จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราต้องหาคำตอบกัน แต่จะใช้มาตรา 44 ให้เกิดความชัดเจนนั้น ไม่น่าจะได้
นายวิษณุ กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. ยังมีข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในขณะที่ยังไม่ได้ดูรายละเอียดรัฐธรรมนูญ รวมถึงนายกฯ เองก็พูดที่เป็นความเห็นส่วนตัว และนายกฯ อาจเป็นคนที่ได้อ่านรัฐธรรมนูญมากกว่าคนอื่น เนื่องจากมีการรายงานให้ทราบเป็นระยะ ท่านจึงทำการบ้านมาดี อย่างท่านต้องการเห็นการเลือกตั้งในปี 60 ให้ได้ ในเดือน ก.ค. ต้องเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งให้ได้เป็นต้นไป สามารถทำให้เลือกตั้งได้เร็วเท่าไรก็ให้ทำ พอถึงตอนนั้น ทุกคนต้องรู้แล้วว่าจะเลือกตั้งตอนไหน มันอาจจะช้ากว่าเดือน ก.ค. แต่ต้องรู้วันที่เลือกตั้งอย่างชัดเจน เพื่อทุกคนจะได้เตรียมตัว และเตรียมหาเสียง
นอกจากนี้ นายกฯ ได้สั่งว่า อยากให้รัฐธรรมนูญมีหมวดการปฏิรูป ตั้งขึ้นมาเป็นหนึ่งหมวดเลย อย่าให้ไปซุกอยู่ตรงไหน และให้ กรธ. ลงไปช่วยคิดอีกทีหนึ่ง ถ้าหากเกิดความไม่เรียบร้อยขึ้นภายหลังจากการเลือกตั้งเสร็จ เรามีกลไกใดที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ ถ้ายังไม่มีให้เขียนเติมลงไป โดยรัฐบาลจะไม่บอกว่ากลไกนั้นคืออะไร ให้ลองไปช่วยกันคิดดูจะเพิ่มอำนาจใคร หรือลดอำนาจใคร ก็แล้วแต่ ส่วนข้อท้วงติงจากภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ การเสนอรายชื่อนายกฯ ก่อนเลือกตั้ง 3 คน นายกฯ คนนอก ส.ว. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง องค์กรอิสระมีอำนาจเกินไป ซึ่งข้อท้วงติงบางเรื่องชี้แจงได้ว่า ถูกหรือไม่ถูกอย่างไร แต่บางเรื่องตนก็แก้ให้ไม่ได้ เพราะนึกเหตุผลหักล้างการท้วงติงไม่ได้ และบางข้อยังแอบเห็นด้วยซ้ำไป.