พิธีกรช่องเคเบิลทีวีร้องนายกฯ ผ่านศูนย์บริการประชาชน ถูกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรนามสกุลดัง “ณ นคร” หลอกขายไอโฟนหนีภาษี ถูกกว่าท้องตลาด 30% พอสั่งของไปแล้วพบเชิดเงินหนีออกนอกประเทศ ไม่ถูกไล่ออกจากราชการ ขอเข้าพบผู้บังคับบัญชากลับถูกบ่ายเบี่ยง จี้สอบประพฤติมิชอบปกป้องกันเอง
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน (ฝั่งสำนักงาน ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น. น.ส.มารีญา โยธานัก อายุ 37 ปี พิธีกรรายการสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องหนึ่ง เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบและกรมศุลากร โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เป็นผู้รับหนังสือ
โดย น.ส.มารีญากล่าวว่า จากกรณีที่นายพฤฒา ณ นคร เจ้าหน้าที่กรมการกรมศุลกากร ใช้ตำแหน่งหน้าที่หลอกลวงให้ซื้อสินค้าแบรนด์เนม โทรศัพท์ไอโฟน ในราคาเพียง 30 เปอร์เซ็นต์จากราคาจริง โดยอ้างว่าจะนำเงินเข้ารัฐ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงได้รวบรวมเงินจากคนสนิทมาสั่งซื้อของถึง 8 แสนบาท แต่ไม่ได้รับสินค้า และได้แจ้งความดำเนินคดีจนออกหมายจับนายพฤฒา ภายหลังทราบว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว และยังไม่ถูกไล่ออกจากราชการแม้จะหลบหนีไปแล้ว
“ที่ผ่านมาพยายามขอเข้าพบอธิบดีกรมศุลกากรในฐานะผู้บังคับบัญชาเพื่อขอคำชี้แจง แต่หน้าห้องบ่ายเบี่ยงไม่ให้เข้าพบ จึงอยากจะร้องเรียนนายกฯ ให้ช่วยเชิญอธิบดีกรมศุลกากรมาให้ความกระจ่างเพื่อเรียกความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือให้หน่วยงานท่านเอง อยากทราบว่าเรื่องนี้นายพฤฒาใช้หน้าที่การงานในทางมิชอบเอง หรือกรมศุลกากรเกี่ยวข้องด้วยตามที่นายพฤฒากล่าวอ้าง อยากให้คดีจบลงเร็วๆ เพื่อให้นำตัวคนผิดมาดำเนินคดี ไม่อยากให้มีเรื่องเส้นสายมาขัดขวางการปฏิบัติงานของตำรวจ” น.ส.มารีญากล่าว
ผู้สื่อข่าว MGR Online รายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.มารีญา ได้เข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2558 โดยระบุว่าตนรู้จักกับนายพฤฒาที่อ้างว่าเป็นนักวิชาการศุลกากรประจำสำนักปฏิบัติการศุลกากร ลาดกระบัง ผ่านเพื่อนคนหนึ่ง เนื่องจากเพื่อนคนดังกล่าวรู้จักและสนิทสนมกันกับนายพฤฒามานาน ต่อมาเมื่อไม่นานมานี้นายพฤฒาบอกกับตนว่าสามารถหากระเป๋าแบรนด์เนม และโทรศัพท์มือถือไอโฟนได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด สินค้าดังกล่าวเป็นสิ่งของหนีภาษีที่ถูกศุลกากรจับกุมได้ โดยนายพฤฒาอ้างว่าสามารถนำออกมาขายให้ได้และมีราคาถูกกว่าท้องตลาดถึง 30 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ตนเห็นว่านายพฤฒาทำงานอยู่กรมศุลกากรจึงหลงเชื่อสั่งซื้อกระเป๋ายี่ห้อดังและโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งโอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชีนายพฤฒาไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2558 จำนวน 800,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นเงินของเพื่อนอีก 3 คนที่ฝากซื้อด้วย แต่หลังจากที่โอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสินค้า เมื่อทวงถามก็ถูกนายพฤฒาบ่ายเบี่ยงมาตลอด ตนจึงเข้าแจ้งความดังกล่าว
