ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชุดสืบสวนเมืองภูเก็ต รวบหนุ่มภูเก็ตนามสกุลดังก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มา 3 ครั้งซ้อน อ้างนำเงินไปเลี้ยงลูกเนื่องจากไม่มีงานทำจึงก่อเหตุ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (14 ธ.ค.) พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงการจับการจับกุมตัวผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ว่า เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 13 ธ.ค.58 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รรท.ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดยตนเอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันจับกุมตัว นายอนุวัตร หรือช้าง รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อายุ 43 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 893/2558 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2558 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาวดำ ทะเบียน คตท 699 อุดรธานี เสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีดำ จำนวน 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำ จำนวน 1 ตัว โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณบ้านเช่าไม่เลขที่ หลังสนามกอล์ฟล๊อคปาล์ม ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
พ.ต.ท.สมศักดิ์ กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.58 เวลาประมาณ 16.15 น. ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์บริเวณหน้าหน้าโรงพยาบาลวชิระ ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทรัพย์สินที่ได้ไป คือ สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง พร้อมจี้พระหุ้มทองหลวงพ่อแช่ม น้ำหนัก 1 สลึง ของนางกันยา จันทร์ขาว อายุ 56 ปีแล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเส้นทางหลบหนีจนสามารถสืบทราบว่า คนร้ายได้หลบหนีไปเส้นทางสายกะทู้-เกาะแก้ว (ด้านข้างโรงเรียนนานาชาติ) ทางเจ้าหน้าที่จึงสอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงจนสามารถรู้ตัวคนร้ายโดยพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าไม่เลขที่ หลังสนามกอล์ฟล๊อคปาล์ม ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ต่อมา จึงเดินทางไปตรวจสอบปรากฏว่า พบผู้ต้องหากำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน และได้จับกุมในที่สุด
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงโดยก่อเหตุร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน ที่กำลังหลบหนีอยู่ ซึ่งจะเลือกเหยื่อที่สวมสร้อยคอทองคำ เพราะนำไปขายได้ง่ายเมื่อขายแล้วนำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งตนเองไม่มีงานทำต้องหาเงินมาเลี้ยงลูก เพราะภรรยาก็ไม่มีงานทำจึงตัดสินใจวิ่งราวดังกล่าว และยอมรับอีกว่า ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำในพื้นที่ สภ.เชิงทะเล จำนวน 2 ครั้ง คือ เส้นทางจากสายบ้านดอน มาแยกข้าง สภ.เชิงทะเล และหน้าสนามกอล์ฟลากูน่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2558 ร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน ที่กำลังหลบหนีอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (14 ธ.ค.) พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงการจับการจับกุมตัวผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ว่า เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 13 ธ.ค.58 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รรท.ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.คุณเดช ณ หนองคาย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต นำโดยตนเอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ร่วมกันจับกุมตัว นายอนุวัตร หรือช้าง รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อายุ 43 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 893/2558 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2558 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาวดำ ทะเบียน คตท 699 อุดรธานี เสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีดำ จำนวน 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำ จำนวน 1 ตัว โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณบ้านเช่าไม่เลขที่ หลังสนามกอล์ฟล๊อคปาล์ม ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
พ.ต.ท.สมศักดิ์ กล่าวถึงการจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.58 เวลาประมาณ 16.15 น. ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์บริเวณหน้าหน้าโรงพยาบาลวชิระ ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทรัพย์สินที่ได้ไป คือ สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง พร้อมจี้พระหุ้มทองหลวงพ่อแช่ม น้ำหนัก 1 สลึง ของนางกันยา จันทร์ขาว อายุ 56 ปีแล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเส้นทางหลบหนีจนสามารถสืบทราบว่า คนร้ายได้หลบหนีไปเส้นทางสายกะทู้-เกาะแก้ว (ด้านข้างโรงเรียนนานาชาติ) ทางเจ้าหน้าที่จึงสอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงจนสามารถรู้ตัวคนร้ายโดยพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าไม่เลขที่ หลังสนามกอล์ฟล๊อคปาล์ม ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ต่อมา จึงเดินทางไปตรวจสอบปรากฏว่า พบผู้ต้องหากำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน และได้จับกุมในที่สุด
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงโดยก่อเหตุร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน ที่กำลังหลบหนีอยู่ ซึ่งจะเลือกเหยื่อที่สวมสร้อยคอทองคำ เพราะนำไปขายได้ง่ายเมื่อขายแล้วนำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งตนเองไม่มีงานทำต้องหาเงินมาเลี้ยงลูก เพราะภรรยาก็ไม่มีงานทำจึงตัดสินใจวิ่งราวดังกล่าว และยอมรับอีกว่า ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำในพื้นที่ สภ.เชิงทะเล จำนวน 2 ครั้ง คือ เส้นทางจากสายบ้านดอน มาแยกข้าง สภ.เชิงทะเล และหน้าสนามกอล์ฟลากูน่า เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2558 ร่วมกับเพื่อนอีก 1 คน ที่กำลังหลบหนีอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป