แกนนำ นปช. ฝากถึง สนช. ไล่ถามกรรมการปรองดองทุกชุด ทำอะไรไปแล้วบ้าง ถามซ้ำ “เรือแป๊ะ” จะปรองดองจริง หรือพูดไปงั้น ๆ แต่เล่นงานฝ่ายตรงข้าม ระบุ ที่ผ่านมาตั้งคณะกรรมการแค่เกลี้ยกล่อมทุกฝ่าย เอาแต่ละฝ่ายมาคุยก็คุยไม่รู้เรื่อง แต่แก้ต่างสู้เพื่อแม้ว เปรียบอนุรักษนิยมกับเสรีนิยม
วันนี้ (10 ม.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ตนไม่ปฏิเสธแนวคิดเรื่องสร้างความปรองดอง และที่ผ่านมา ก็เคยให้ความร่วมมือแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมมาแล้วหลายชุด แต่ความเป็นจริง คือ คณะกรรมการปรองดองมีสถานะเพียงเครื่องช่วยอธิบายของผู้มีอำนาจว่ามีการดำเนินการเรื่องนี้ การบอกว่าต้องเอาทุกฝ่ายที่เป็นเหตุแห่งความขัดแย้ง เช่น นปช., กปปส. หรือพรรคการเมืองต่าง ๆ มาตั้งวงคุยกันก็ไม่ตรงกับสภาพปัญหา เพราะในทัศนะของตนนั้น กลุ่มคนดังกล่าวไม่ใช่เหตุ แต่เป็นผลของความขัดแย้งหลักระหว่างแนวคิดอนุรักษนิยมกับเสรีนิยมที่สู้กันมาตั้งแต่ปี 2475 หัวใจของการปรองดองจึงไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่การทำให้หลักการประชาธิปไตยเข้มแข็ง เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ภายใต้กติกาที่เป็นสากล เมื่อมองจากจุดนี้การตั้งคณะกรรมการปรองดองโดยที่เนื้อหารัฐธรรมนูญซึ่งกำลังร่างขัดหลักการประชาธิปไตย จึงไม่ใช่คำอธิบายว่าจะนำประเทศออกจากความขัดแย้งได้
“ฝากถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลายคนอย่ามัวไล่ตอบโต้คนวิจารณ์การตั้งคณะกรรมการ แต่ควรใช้เวลาของสภาเชิญกรรมการปรองดองที่ตั้งมาแล้วทุกชุด มานำเสนอว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และมีผลคืบหน้าอย่างไร ที่สำคัญคือ ไปถามแป๊ะให้ชัดว่าจะปรองดองกันจริง ๆ หรือพูดไปพลางเล่นงานฝ่ายตรงข้ามไปพลางจนกว่าจะสิ้นซากไป ผมไม่เชื่อว่าการปรองดองจะเกิดขึ้นบนเรือแป๊ะ ที่ทุกคนมีหน้าที่ตามใจแป๊ะได้ ต้องทำตามหลักการประชาธิปไตยเท่านั้นวิกฤตจึงพบทางคลี่คลาย” นายณัฐวุฒิ กล่าว.