นายกฯ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทำงานหนักดูแลการจราจร ชี้ปีนี้คนเดินทางมากกว่าทุกปี โวมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” สุดเจ๋ง ช่วยสกัดอาวุธปืน-ยาเสพติดด้วย ถือเป็นนวัตกรรมดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในรอบหลายสิบปี เล็งใช้ต่อเนื่องทุกเทศกาล
วันนี้ (3 ม.ค. 59) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันดำเนินงานมาตรการดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง แม้จำนวนอุบัติเหตุจะยังมีปริมาณสูง แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่แล้ว และพบว่าปีนี้ปริมาณรถยนต์และจักรยานยนต์ที่สัญจรไปมามีจำนวนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว
สำหรับมาตรการดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ถือเป็นมาตรการที่น่าพอใจ กล่าวได้ว่าเป็นนวัตกรรมในรอบหลายสิบปี ที่มีเป้าหมายเพื่อการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
“มาตรการดื่มไม่ขับ จับยึดรถ ได้รับเสียงชื่นชมจากองค์กรด้านสุขภาพ และประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างมาก ถือเป็นมาตรการใหม่ที่ไม่เคยมีการนำมาใช้มาก่อน ที่สำคัญการตรวจยึดรถของผู่ขับขี่ที่ดื่มสุราและมีพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ยังทำให้เจ้าหน้าที่สามารถสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่ซุกซ่อนอยู่ในรถ เช่น อาวุธปืน ยาเสพติด และขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดและเครือข่ายได้ด้วย จึงถือเป็นมาตรการที่สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง และดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งยับยั้งเหตุรุนแรงในหลายมิติไปพร้อมกัน”
พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการวันที่ 25 ธ.ค. 58 - 1 ม.ค. 59 เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าวแล้ว 2,140 คัน แบ่งเป็นจักรยานยนต์ 1,952 คัน และรถยนต์ 188 คัน รวมทั้งได้ดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดทั้งสิ้นกว่า 23,200 คน
“รัฐบาลจะพิจารณานำมาตรการนี้มาใช้อย่างต่อเนื่องในทุกเทศกาลที่มีวันหยุดยาว อาทิ เทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ทุกคนและทุกฝ่ายในสังคมจะต้องร่วมมือกันและแสดงออกซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน”