ผบ.พล.ม.2 รอ. แจงรับผิดชอบ 12 เขต กทม.ดูแลความปลอดภัยปีใหม่ เน้นพื้นที่ ปชช.หนาแน่น ประสานใช้ซีซีทีวี ให้แจ้งพบเห็นสิ่งผิดปกติ มั่นใจมาตรการดูแลควบคุมได้ รับทราบหมดต่างชาติเข้าไทย คัดกรองได้กันก่อเหตุ ให้ความมั่นใจ ปชช.ฉลองปีใหม่มีความสุข ไร้เหตุรุนแรง เผย “บิ๊กหมู” ย้ำให้กำลังพลตื่นตัว
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.พล.ม.2 รอ. กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามคำสั่งของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ว่า ในส่วนของ พล.ม.2.รอ.รับผิดชอบพื้นที่ 12 เขต คือ ราชเทวี ปทุมวัน สาทร ยานนาวา บางคอแหลม คลองเตย พระโขนง สวนหลวง ประเวศ วัฒนา บางนา บางรัก
โดยการดำเนินการเป็นไปตามนโยบาย ดูแล 2 ลักษณะ 1. อำนวยความสะดวก 2. การดูแลรักษาความปลอดภัย โดยพิจารณาจุดที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น ถือเป็นพื้นที่ความเร่งด่วนแรก โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้มีการประสานงานเจ้าหน้าที่รักษาวามปลอดภัยในอาคาร สถานที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการใช้สิ่งอุปกรณ์ เช่น กล้องซีซีทีวี พร้มติดป้ายประชาสัมพันธ์ หากมีประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติให้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งมาตรการต่างๆ เหล่านี้จะมีส่วนช่วยได้มาก
พล.ต.เฉลิมพลกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หากพบสิ่งของที่นำมาวางไว้ในบริเวณที่ไม่ควรอยู่ 5-10 นาที ก็จะมีประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่ไปดูเป็นต้น ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าเราดำเนินการในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยในเรื่องการตรวจสิ่งผิดปกติอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่สาธารณะจะมีคนดูแลน้อย แต่ในส่วนของพื้นที่ห้างสรรพสินค้า อาคาร จะได้รับความร่วมมือจากเจ้าของสถานที่ในส่วนของทหารจะเข้าไปร่วมให้คำแนะนำ และจะนำกำลังทหารและตำรวจไปดูแลพื้นที่สาธารณะให้มาก
“ผมมั่นใจในมาตรการที่เรามีว่าสามารถดูแลควบคุมแลได้ โดยเฉพาะเขตปทุมวัน และราชเทวี ถือเป็นพื้นที่ที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเคยมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนพื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ เช่น เขตสาทรนั้น หากพิจารณาเรื่องที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ เรามีการปฏิบัติงานร่วมกันมาตลอดกับ สตช. กองตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะมีข้อมูลว่าลักษณะพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ พื้นที่ที่อาจจะมีชาวต่างชาติชาตินั้นอยู่ และสุ่มเสี่ยงเป็นพื้นที่ก่อเหตุรุนแรงได้ เราก็จะมีมาตรา รักษาความปลอดภัย” พล.ต.เฉลิมพลกล่าว
พล.ต.เฉลิมพลกล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่ที่เป็นแหล่งพักพิงของชาวต่างชาติที่จะเข้ามาก่อเหตุ มีการปฏิบัติงานร่วมกับทางกองตรวจคนเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง มีข้อมูลที่ชัดเจนซึ่งคนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ทาง ตม.ทราบหมดว่าใครเข้ามา เพราะฉะนั้นจะมีฐานข้อมูลว่าเข้ามาแล้ว แสดงสถานะอย่างไร นักท่องเที่ยวอยู่กี่เดือน และจะมีข้อมูลว่า ออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ พำนักที่ไหน นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการที่พักเป็นอย่างดี จะมีการโทร.มาแจ้งว่ามีต่างชาติ เข้ามา ขอดูพาสปร์อต สิ่งเหล่านี้จะสามารถคัดกรองสิ่งได้ อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาความปลอดภัยก็พัฒนาไปตามสถานการณ์ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องภัยคุกคาม เรามีความคืบหน้าในการป้องกัน เฝ้าระวังมากขึ้น จนเป็นรูปธรรม จนควบคุมได้
พล.ต.เฉลิมพลกล่าวย้ำว่า จากมาตราการต่างๆ ที่เราดำเนินการอยู่ สามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ว่าจะฉลองปีใหม่กันอย่างมีความสุข โดยไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะสภาพที่เป็นอยู่ การดำเนินการของสถานประกอบการ การเดินทาง การจัดงาน สามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพราะแต่ละสถานที่ทางผู้จัดงานหารือร่วมเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ พื้นที่ที่จัดงานเคาร์ดาว เจ้าของสถานที่จะทราบว่าพื้นที่เขามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ถ้าจัดงานต้องมั่นใจมาตราการรักษาความปลอกภัยในบริเวณพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะเข้าไปประชุมร่วมกัน ส่วนผู้ประกอบการจะหาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยในส่วนของตัวเอง ให้เพียงพอให้เกิดความปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่จะดูภาพรวมดูในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือจากประชาชนเป็นหูเป็นตา เห็นสิ่งผิดปกติแจ้งเจ้าหน้าที่ เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ดีที่สุด
“ทาง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ผบ.กกล.รส.เน้นย้ำว่าต้องให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และทำให้เกิดความมั่นใจ และเน้นในเรื่องการดูแลสถานที่ท่องเที่ยง เช่น เอเชียทีค และท่าเรือต่างๆที่สำคัญ ตลอดจนเน้นย้ำให้กำลังพลตื่นตัว มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน” พล.ต.เฉลิมพลกล่าว
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.พล.ม.2 รอ. กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามคำสั่งของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ว่า ในส่วนของ พล.ม.2.รอ.รับผิดชอบพื้นที่ 12 เขต คือ ราชเทวี ปทุมวัน สาทร ยานนาวา บางคอแหลม คลองเตย พระโขนง สวนหลวง ประเวศ วัฒนา บางนา บางรัก
โดยการดำเนินการเป็นไปตามนโยบาย ดูแล 2 ลักษณะ 1. อำนวยความสะดวก 2. การดูแลรักษาความปลอดภัย โดยพิจารณาจุดที่มีประชาชนอยู่หนาแน่น ถือเป็นพื้นที่ความเร่งด่วนแรก โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้มีการประสานงานเจ้าหน้าที่รักษาวามปลอดภัยในอาคาร สถานที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการใช้สิ่งอุปกรณ์ เช่น กล้องซีซีทีวี พร้มติดป้ายประชาสัมพันธ์ หากมีประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติให้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งมาตรการต่างๆ เหล่านี้จะมีส่วนช่วยได้มาก
พล.ต.เฉลิมพลกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หากพบสิ่งของที่นำมาวางไว้ในบริเวณที่ไม่ควรอยู่ 5-10 นาที ก็จะมีประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่ไปดูเป็นต้น ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าเราดำเนินการในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยในเรื่องการตรวจสิ่งผิดปกติอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่สาธารณะจะมีคนดูแลน้อย แต่ในส่วนของพื้นที่ห้างสรรพสินค้า อาคาร จะได้รับความร่วมมือจากเจ้าของสถานที่ในส่วนของทหารจะเข้าไปร่วมให้คำแนะนำ และจะนำกำลังทหารและตำรวจไปดูแลพื้นที่สาธารณะให้มาก
“ผมมั่นใจในมาตรการที่เรามีว่าสามารถดูแลควบคุมแลได้ โดยเฉพาะเขตปทุมวัน และราชเทวี ถือเป็นพื้นที่ที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเคยมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนพื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ เช่น เขตสาทรนั้น หากพิจารณาเรื่องที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ เรามีการปฏิบัติงานร่วมกันมาตลอดกับ สตช. กองตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะมีข้อมูลว่าลักษณะพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ พื้นที่ที่อาจจะมีชาวต่างชาติชาตินั้นอยู่ และสุ่มเสี่ยงเป็นพื้นที่ก่อเหตุรุนแรงได้ เราก็จะมีมาตรา รักษาความปลอดภัย” พล.ต.เฉลิมพลกล่าว
พล.ต.เฉลิมพลกล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่ที่เป็นแหล่งพักพิงของชาวต่างชาติที่จะเข้ามาก่อเหตุ มีการปฏิบัติงานร่วมกับทางกองตรวจคนเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง มีข้อมูลที่ชัดเจนซึ่งคนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ทาง ตม.ทราบหมดว่าใครเข้ามา เพราะฉะนั้นจะมีฐานข้อมูลว่าเข้ามาแล้ว แสดงสถานะอย่างไร นักท่องเที่ยวอยู่กี่เดือน และจะมีข้อมูลว่า ออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ พำนักที่ไหน นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการที่พักเป็นอย่างดี จะมีการโทร.มาแจ้งว่ามีต่างชาติ เข้ามา ขอดูพาสปร์อต สิ่งเหล่านี้จะสามารถคัดกรองสิ่งได้ อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาความปลอดภัยก็พัฒนาไปตามสถานการณ์ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องภัยคุกคาม เรามีความคืบหน้าในการป้องกัน เฝ้าระวังมากขึ้น จนเป็นรูปธรรม จนควบคุมได้
พล.ต.เฉลิมพลกล่าวย้ำว่า จากมาตราการต่างๆ ที่เราดำเนินการอยู่ สามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนได้ว่าจะฉลองปีใหม่กันอย่างมีความสุข โดยไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะสภาพที่เป็นอยู่ การดำเนินการของสถานประกอบการ การเดินทาง การจัดงาน สามารถดำเนินการได้ตามปกติ เพราะแต่ละสถานที่ทางผู้จัดงานหารือร่วมเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ พื้นที่ที่จัดงานเคาร์ดาว เจ้าของสถานที่จะทราบว่าพื้นที่เขามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ถ้าจัดงานต้องมั่นใจมาตราการรักษาความปลอกภัยในบริเวณพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะเข้าไปประชุมร่วมกัน ส่วนผู้ประกอบการจะหาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยในส่วนของตัวเอง ให้เพียงพอให้เกิดความปลอดภัย ส่วนเจ้าหน้าที่จะดูภาพรวมดูในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือจากประชาชนเป็นหูเป็นตา เห็นสิ่งผิดปกติแจ้งเจ้าหน้าที่ เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ดีที่สุด
“ทาง พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ผบ.กกล.รส.เน้นย้ำว่าต้องให้ความสำคัญในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และทำให้เกิดความมั่นใจ และเน้นในเรื่องการดูแลสถานที่ท่องเที่ยง เช่น เอเชียทีค และท่าเรือต่างๆที่สำคัญ ตลอดจนเน้นย้ำให้กำลังพลตื่นตัว มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน” พล.ต.เฉลิมพลกล่าว