นายทหารพระธรรมนูญนำตัว “ฐนกร ศิริไพบูลย์” หนุ่มเผยแพร่ผังโกงอุทยานราชภักดิ์ ขอศาลทหารฝากขังผลัดแรก เจ้าตัวขออัดคลิปเสียงยอมรับแฉข้อมูลโจมตีรัฐบาลจริง ระบุไปร่วมม็อบนักศึกษาจนโดนจับ ยันสำนึกแล้ว ขอพวกอย่าเอาตนไปแสวงหาประโยชน์ ปัดถูกบังคับพูด บอกพ้นโทษแล้วจะบวชแทนคุณพ่อแม่ ด้านก๊วนประชาธิปไตยใหม่นำกรงขังจำลองสวดรัฐจับคนทำ จี้ “ประยุทธ์” แจงผังเท็จอย่างไร บอกคนโดนจับไม่เกี่ยวจัดทำ เชื่อยก ม.112 เบี่ยงประเด็นโกง แย้มแจมพลเมืองโต้กลับก่อหวอดหน้าคุก มทบ.
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ศาลทหารกรุงเทพ เมื่อเวลา 09.00 น. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ ได้นำตัว นายฐนกร ศิริไพบูลย์ หรือเอฟ อายุ 27 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งย่าน จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาคดีกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ ในการเผยแพร่แผนผังผู้ทุจริต “อุทยานราชภักดิ์” ที่เชื่อมโยงกับบุคคลในรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภริยา มาขอฝากขังศาลทหารเป็นผลัดแรกในระหว่างวันที่ 14 ธ.ค.-25 ธ.ค.นี้
ก่อนที่นายฐนกรจะถูกนำตัวมาขออำนาจศาลทหารฝากขัง ได้ใช้โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่อัดคลิปเสียงมีเนื้อหาความยาว 6.30 นาที โดยเนื้อหาตามคลิปเสียงในโทรศัพท์ยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้บันทึกภาพแผนผังที่อ้างว่าเป็นการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์มาจากเฟซบุ๊ก และเผยแพร่ข้อมูลเพื่อโจมตีรัฐบาล โดยก่อนหน้านี้ตนได้เดินทางไปร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มมวลชนจากสถาบันหนึ่งจนถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัว ยืนยันว่าระหว่างถูกควบคุมตัวนั้นทหารดูแลตนเป็นอย่างดี และได้สำนึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำลงไป พร้อมวิงวอนไปยังกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ อย่าใช้ตนไปแสวงหาผลประโยชน์ เช่น การจัดกิจกรรมจุดเทียน และขอเตือนประชาชนว่าให้มีสติในการใช้โซเชียลมีเดียในทางที่ดี อย่าโพสต์ในสิ่งใดคิดให้รอบคอบอย่าให้ใครมาชักจูง เพราะอาจจะมีคนหยิบไปใช้ประโยชน์โดยไม่รู้ตัว เพราะขณะนี้รัฐบาลมีกฎหมายเรื่อง พ.ร.บ.คอมพ์ สามารถเอาผิดได้ และในช่วงสุดท้าย นายฐนกรได้ยืนยันว่าการบันทึกคลิปดังกล่าวเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับ และยินดีมอบคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ พร้อมระบุอีกว่าหากพ้นโทษไปแล้วตนจะกลับไปบวชเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าอยู่ในระหว่างการนำคลิปของนายฐนกรไปขออนุญาตผู้บังคับบัญชา เพื่อเผยแพร่ให้สื่อมวลชนในเวลาต่อไป
ทั้งนี้ นายฐนกรถูกควบคุมตัวตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.ก่อนถูกออกหมายจับเลขที่ 63/2558 ข้อหาผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี ตามมาตรา 112 ข้อหากระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิดีโออื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแก่รัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร ตามมาตรา 116 และข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีข้อความเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนก
สำหรับบรรยากาศการดูแลรักษาความปลอดภัย ทางเข้าบริเวณข้างศาลหลักเมืองเป็นไปด้วยความเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมาปิดทางเข้าออก ภายหลังมีกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ นำโดยนายโรม รังสิมันต์ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นายวรวุฒิ บุตรมาตร น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ นายกรกช แสงเย็นพันธ์ นายปกรณ์ อารีย์กุล และนายฉัตรมงคล วัลลีย์ และนำกรงขังจำลองมาประกอบกิจกรรมซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเจรจาเพื่อขอเปิดทางเข้าออกและให้เคลื่อนย้ายไปอยู่บริเวณริมทางเท้า
หลังจากนั้นกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ออกมาแสดงเชิงสัญลักษณ์บริเวณศาลหลักเมือง โดยนายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่มีการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 116 ในการควบคุมตัวกลุ่มผู้ที่โพสต์แผนผังปัญหาการสร้างอุทยานราชภักดิ์ และอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาชี้แจงหากเห็นว่าแผนผังดังกล่าวนั้นเป็นเท็จอย่างไร ทั้งนี้ยอมรับว่าแผนผังดังกล่าวได้เผยแพร่มาจากเพจเฟซบุ๊กของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่จริง โดยทางกลุ่มได้มีการรวบรวมข้อมูลจากสื่อต่างๆ และจัดทำขึ้นมา
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ตนพร้อมให้ความร่วมมือชี้แจงข้อสงสัยและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันก็ต้องการให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงไม่เช่นนั้นอาจทำให้สังคมมองว่าเจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายมาตรา 112 มาเบี่ยงเบนประเด็นในการตรวจสอบปัญหาการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ทั้งนี้ เย็นวันนี้กลุ่มพลเมืองโต้กลับซึ่งร่วมเคลื่อนไหวกับขบวนการประชาธิปไตยใหม่จะเดินทางไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่บริเวณหน้าเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 อีกด้วย