ทวงถามนายกฯ จี้ ศธ.เร่งแก้หนี้สินครูไทย เผยตัวเลขครูทั้งประเทศหนี้กระฉูด 2 ล้านล้านบาท เผยค่าเฉลี่ยครูมีหนี้ต่อหัว 2 ล้านบาท พบครูไทยหนี้สินล้นสูงที่สุด 5 ล้านบาท วอนนายกฯ แก้ปัญหา 5 แหล่งเงินกู้ พบเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแหล่งเดียว รวม 7.6 แสนล้านบาท
วันนี้ (8 ธ.ค.) มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า นายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ นำกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน นำเครือข่ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นหนี้สินวิกฤต จำนวนหนึ่งเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งสำนักงาน ก.พ.) เพื่อติดตามและทวงถามการบริหารจัดการหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบปัญหาวิกฤตที่เคยยื่นหนังสือระบุปัญหาหนี้สินของครูและบุคลากรทางการศึกษาเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา
โดยครั้งนั้นได้เสนอให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ลดอัตราดอกเบี้ยจาก MLR 7.5% คงเหลือ 3.5-4% ทั้งระบบธนาคารและสหกรณ์ออมทรัพย์ในขอบเขตทั้งประเทศ ระงับการฟ้องร้องหรือบังคับคดีครูจำนวน 33,000 ราย และให้จัดตั้งหน่วยงานกลางหรือธนาคารแห่งใดแห่งหนึ่ง หรือตั้งธนาคารครูไทยขึ้นมาใหม่ หรือธนาคารเพื่อบริหารจัดการหนี้สินข้าราชการครูทั้งระบบ แต่ผ่านไปแล้ว 2 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หน่วยงานที่รับผิดชอบกลับออกข่าวและสำรวจที่จะฟ้องร้องข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มีรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายฯ ได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมถึง พล.อ.ประยุทธ์ โดยระบุถึงแหล่งเงินกู้ที่สำคัญของครูทั่วประเทศกว่า 4 แสนคน รวมเป็นหนี้จำนวนมหาศาล ได้แก่ 1. สหกรณ์ออมทรัพย์ครู มี 87 แห่งทั่วประเทศ มีทุนดำเนินการกว่า 3.7 แสนล้านบาท มีสมาชิก 6.4 แสนราย มีสมาชิกที่เป็นหนี้สหกรณ์ 4.6 แสนราย วงเงินรวม 7.6 แสนล้านบาท โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นไปตามที่คณะกรรมการดำเนินงานของแต่ละสหกรณ์กำหนด สูงสุดที่ 8.2% ต่อปี และต่ำสุด 2.2% ต่อปี 2. แหล่งเงินกู้จากสินเชื่อโครงการพัฒนาชีวิตครู ซึ่งเป็นโครงการระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ ธนาคารออมสิน และกลุ่มเครือข่ายพัฒนาชีวิตครู มีสมาชิกจำนวน 1,571 กลุ่ม หรือ 93,140 คน ยอดเงินกู้อนุมัติแล้ว 1.1 แสนล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR -0.25% อยู่ระหว่างขอปรับอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารออมสินให้เป็น MLR -0.50%
3. สินเชื่อโครงการกองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์เพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.ค.พ.) สมาชิกจำนวน 8.3 แสนราย และโครงการกองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา ในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ของสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) สมาชิกจำนวน 3.8 แสนราย รวมวงเงินกู้ทั้งหมด 8.7 แสนล้านบาท 4. เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู บริหารโครงการโดยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มีทุนดำเนินการ 1,200 ล้านบาท ยอดเงินกู้ที่อนุมัติแล้ว 2.7 แสนล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR -1% และ 5. แหล่งเงินกู้อื่นที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ เช่น บัตรเครดิต เงินกู้ธนวัฏ เงินกู้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ เงินกู้จากสินค้าเงินผ่อน เงินกู้นอกระบบ เป็นต้น
เอกสารระบุว่า ข้อมูลจำนวนผู้กู้และวงเงินที่กู้จาก 4 แหล่งแรก ยังไม่รวมจำนวนหนี้จากแหล่งเงินกู้นอกระบบจะเห็นว่าครูมีหนี้สินรวมกันมากถึง 1 ล้านล้านบาท แต่หากรวมกับหนี้สินนอกระบบแล้ว มีผู้คาดการณ์ว่าครูทั้งประเทศน่าจะมีหนี้รวมกันไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากมายมหาศาลอย่างยิ่ง ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ครูหนึ่งคนจะมีหนี้สินประมาณ 2ล้านบาท โดยครูที่มีหนี้สินมากที่สุดเป็นหนี้มากที่สุด 5 ล้านบาท