รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เหน็บ ตม. ตัวการทำให้มีผู้ก่อการร้ายเต็มเมือง ปูดรับเงินใต้โต๊ะรายละ 1 หมื่นบาท แลกไม่ต้องไปแสดงตัวเพื่อขอต่อวีซ่า หนุน กรธ. ใช้องค์กรเดิมที่มีอยู่ใน รธน. ทำหน้าที่ฝ่าวิกฤตการเมือง พร้อมค้านแนวคิดเชิญฝ่ายการเมืองให้ข้อเสนอแนะ กรธ.
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทำให้เมืองไทยกลายเป็นที่พำนักของการก่อการร้าย (2) ตนตั้งใจเขียนเรื่องนี้ให้แรง เพื่อให้ผู้มีอำนาจที่มีอำนาจพิเศษอยู่ในมือได้ยิน เพื่อป้องกันมิให้คนบริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บล้มตายจากการก่อการร้าย การระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม ที่ราชประสงค์ ตนว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม้ทำบุญตักบาตรทุกวัน ก็ไม่พ้นผลกรรมที่การกระทำของตัวเองมีส่วน ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บล้มตาย ประเทศชาติเสียความน่าเชื่อถือ
การขอวีซ่าเพื่ออยู่ต่อในประเทศ ตามกฎหมายแล้วชาวต่างชาติต้องแสดงตนต่อตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แต่ชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่เมืองไทยแล้ว ส่วนใหญ่ไม่อยากเดินทางไปติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ด้วยตัวเอง จึงจ่ายเงินใต้โต๊ะให้บริษัทที่รับทำเรื่องนี้นำไปจ่ายให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรายละ 8,000 - 10,000 บาท แลกกับการไม่ต้องไปแสดงตน ลองคิดดู ขนาดคนไทยไปทำบัตรประชาชนยังต้องไปด้วยตัวเอง และถ่ายรูปที่สำนักงานทะเบียนนั้น ๆ แต่ชาวต่างชาติมาอยู่เมืองไทยแท้ ๆ กลับไม่ต้องไปแสดงตนด้วยตัวเอง โดยชาวต่างชาติเพียงแต่ถามว่า “How much I need to pay” (ฉันต้องจ่ายเท่าไหร่) เท่านั้นก็เรียบร้อย เมืองไทยซื้อได้ทุกอย่าง เว้นแต่คุณจะซื้อด้วยราคาเท่าไหร่เท่านั้นเอง
นายนิพิฏฐ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการร่างรัฐธรรมนูญของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ตนเคยให้ความเห็นมาตลอดว่า ในร่างรัฐธรรมนูญต้องมีองค์กรเพื่อฝ่าวิกฤตยามบ้านเมืองเกิดทางตันเอาไว้ ซึ่งเห็นด้วย หาก กรธ. มีเเนวคิดให้ใช้องค์กรเดิมที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญมาแก้ปัญหาโดยไม่ต้องสร้างองค์กรใหม่
อย่างไรก็ตาม ถ้า กรธ. ฟังเสียงนักการเมือง นักวิชาการ ที่ออกมาวิจารณ์จริง ๆ เขาคงได้ยิน เพราะตนก็ออกมาพูดบ่อย ไม่จำเป็นต้องเชิญฝ่ายการเมืองเข้าให้ข้อเสนอเเนะเเบบเต็มรูปแบบ หรือเป็นทางการ สมมติถ้าเชิญจริง ก็ไม่เชื่อว่าจะมีพรรคการเมืองใดส่งคนตัวจริงไปร่วม ขนาดบรรดาคนที่ไปเป็นสมาชิก สปท. พรรคการเมืองยังส่งเเค่บุคคลที่กำลังจะวางมือทางการเมืองไปร่วมเลย หรือถ้ามีคนไปร่วมให้ความเห็นจริง แต่ กรธ. กลับไม่ฟัง พรรคการเมือง จะกลายเป็นตรายางเพิ่มความชอบธรรมให้ กรธ. อีก ดังนั้น 1. กรธ. ต้องฟังให้มาก 2. ฟังคนที่ควรฟัง เพราะถ้าฟังเยอะ เเต่ไปฟังคนที่ไม่ควรฟังก็ไร้ประโยชน์