แกนนำแก๊งแดงพาเหรดตบเท้ายื่นหนังสือ “ประยุทธ์” สานต่อ “ตู่-เต้น” ถูกคุกคามหลังสร้างกระแสไปเยือนอุทยานราชภักดิ์ จี้ปล่อยประชาชนมีเสรีภาพ โวยเลิกป่าเถื่อนใช้ ม.44 แกนนำขยี้ปมเกาะติดส่งลูกไปโรงเรียน ตามเฝ้า 24 ชม. ขอถอนกำลังออก ติงทำเกินกว่าเหตุ ฉะนิติรัฐยังไม่ได้อย่าถามถึงนิติธรรม
วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียรัฐบาล แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกอบด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ และนายยศวริศ ชูกล่อม เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ยุติการคุกคามและละเมิดสิทธิของประชาชน โดยนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ ผอ.ส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชนเป็นตัวแทนรับเรื่อง โดยนางธิดากล่าวว่า หลังการรัฐประหารผ่านไป 1 ปี สถานการณ์ทั่วไปที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ คสช.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปัญหาโครงการอุทยานราชภักดิ์เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.วิเคราะห์และวิจารณ์เหมือนพลเมืองทั่วไปเพื่อให้สังคมกระจ่าง
นางธิดากล่าวว่า หลังมีการปล่อยตัวปรากฏว่ามีการยกระดับคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะนายณัฐวุฒินั้นมีทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ ยานพาหนะรูปแบบต่างๆ ไม่ติดป้ายทะเบียนติดตามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งไม่น่าไว้วางใจ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถึงขั้นคุกคามภรรยาและลูกหลานแล้ว แม้ไปส่งลูกที่โรงเรียนก็มีการติดตามและถ่ายภาพไปถึงโรงเรียน จึงขอให้หัวหน้า คสช.พิจารณายุติข่มขู่คุกคาม เพราะมีแต่จะสร้างปัญหามากขึ้น น่าจะปลดปล่อยให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพได้แล้ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประชาชนในการนำประเทศไปสู่ประชาธิปไตย แม้จะปกครองด้วยอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ แต่มาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ระบุศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค บรรดาที่ชนชาวไทยเคยได้รับการคุ้มครองตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ย่อมได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนี้
นางธิดากล่าวว่า ที่สำคัญไม่ควรนำมาตรา 44 มาใช้กับนายณัฐวุฒิ และนายจตุพร เพราะไม่ได้มีการนำมวลชนไป จึงเรียกร้องรัฐบาลยุติการกระทำที่ป่าเถื่อน ยุติคุกคามที่ไม่ใช่เฉพาะแกนนำ นปช.เท่านั้น รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย ส่วนหลังจากนี้ จะมีการยื่นหนังสือไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ด้วยหรือไม่นั้น ขอหารือกันก่อน
ด้าน นพ.เหวงกล่าวว่า ความจริงแล้วมีอะไร แค่แม่บ้านส่งลูกไปโรงเรียน ถ้ามีอะไรก็ควรจะเชิญตัวไปพูดคุย หรือจะให้ลงนามในหนังสืออะไรก็ว่าไป แต่ไม่ใช่มาตามเฝ้า 24 ชั่วโมง ขอให้ถอนกำลังทหารออกไปทั้งหมดทันที อยากให้เข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกคุกคาม โดยเฉพาะคนที่เป็นเพศแม่ แค่ไปส่งลูกเรียนหนังสือไม่เห็นจะมีอะไร
ด้านนายวีระกานต์กล่าวว่า การมาร้องนายกฯ ครั้งนี้เพื่อให้รู้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม แค่เด็กอนุบาลไปเรียนหนังสือก็ขับรถตาม เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทนไม่ได้ ควรพูดจากันให้รู้เรื่อง ทำอะไรควรคำนึงถึงกฎหมาย เพราะถ้ายังเป็นนิติรัฐไม่ได้ ก็อย่าไปถามถึงหลักนิติธรรมเลย เสียเวลา เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขอความกรุณานายกฯ ตรวจการนำตัวผู้กระทำความผิดมาสอบสวนและลงโทษ เพราะถือว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ไม่ใช่ปล่อยให้ทำได้ตามอำเภอใจ โดยวุฒิภาวะไม่ถึง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม จะได้เป็นหลักประกันว่ายังคำนึงถึงหลักนิติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวได้มีการนำภาพถ่ายครอบครัวทั้งของนายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ในอิริยาบถต่างๆ มาแสดงด้วย
