“วัชระ” เย้ย “ตู่-เต้น” จี้ปมราชภักดิ์ แต่จำนำข้าวเงียบเป็นเป่าสาก

อดีต ส.ส. ปชป. ชี้ เป็นสิทธิ “ณัฐวุฒิ - จตุพร” ไปดูอุทยานราชภักดิ์ แต่ถามทำไมเพิ่งไปตอนนี้ ทีเรื่องจำนำข้าวทำไมเงียบเป็นเป่าสาก เจตนาชี้ชัดต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล เตือน พล.อ.ประยุทธ์ สองคนนี้ยอมตายเพื่อนายใหญ่ได้

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ประกาศชวน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ไปดูอุทยานราชภักดิ์ที่มีปัญหา ว่า เป็นสิทธิของบุคคลทั้งสองเหมือนประชาชนทั่วไป แต่น่าแปลกใจว่าทำไมเพิ่งจะนึกไปสักการะในขณะนี้ ทั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ต่างเป็นจำเลยในคดีก่อการร้ายเหมือนกัน ทำงานรับใช้นายทักษิณ ชินวัตร เหมือนกัน นายณัฐวุฒิ ปลุกระดมคนเสื้อแดงให้เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง ส่วนนายจตุพรเป็นเจ้าของคำพูดอมตะ กระสุนพระราชทาน แต่ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้อง ทั้งสองเป็นนักต่อสู้ของคนเสื้อแดงเหมือนกัน สู้แล้วรวยเหมือนกัน ต่างกันตรงที่นายณัฐวุฒิได้เป็นรัฐมนตรี 2 ครั้ง นายจตุพร กินแห้วทุกครั้ง ขนาดนายทักษิณรับปาก จัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งรัฐมนตรีล่วงหน้า ตัดชุดขาวรอก็ยังกินแห้วซ้ำซาก แต่ก็ยังจงรักภักดีกับนายใหญ่อยู่มิเสื่อมคลาย มาวันนี้ได้ทีถล่มรุกไล่ปมราชภักดิ์วันละสามเวลา แต่ถ้าเรื่องทุจริตจำนำข้าวกลับเงียบเป็นเป่าสาก หรือพวกเดียวกันทุจริตกลับนิ่งเงียบ

นายวัชระ กล่าวอีกว่า เป็นเรื่องที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรีต้องทบทวน เพราะเรื่องนี้พิสูจน์ชัดถึงคำโบราณของสุนทรภู่ที่ว่า ประเพณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง ยังไงยังงั้นทีเดียว ไม่มีอีกแล้วในโลกใบนี้ที่มีเสรีภาพเท่าประเทศไทย ขนาดเป็นจำเลยในคดีก่อการร้าย ศาลเมตตาอนุญาตให้ประกันตัวด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ แต่ยังละเมิดเงื่อนไขพูดปลุกระดม ข่มขู่ท้าทายรายวันหลายครั้ง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางเฉย โดยเฉพาะ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มีหลักฐานชัดว่าให้เงินสนับสนุนคนเสื้อแดงล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา คนที่ทำตามนายณัฐวุฒิ ศาลพัทยาตัดสินจำคุกคนละ 4 ปีทุกคนถ้วนหน้า แต่ตัวการคือ นายณัฐวุฒิ กลับลอยนวลชวนชมนั่นนี่ ถามว่า พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มัวทำอะไรอยู่ ทำไมคดีนี้ถึงล่าช้ามากถึงขนาดนี้

“นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร ก็เหมือนกับพรรคเพื่อไทย คือ เจตนาทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล แต่ พลเอก ประยุทธ์ นั้น ท่านยอมตายเพื่อสถาบันได้ ส่วนสองคนนั่นก็ยอมตายเพื่อนายใหญ่ได้ ประชาชนเห็นถึงความแตกต่างตรงนี้

“หากนายณัฐวุฒิ และ นายจตุพร กล้าไปจริง ก็ขอแนะนำให้ทำพานดอกไม้ธูปเทียนไปกราบขอขมาด้วย เพราะเป็นต้นเหตุปลุกระดมให้แผ่นดินลุกเป็นไฟบนปฐพีของท่านและอย่าลืมว่า จ.ประจวบคีรีขันธ์มีนักศึกษารามคำแหงจำนวนมากที่ยังจำไม่ลืมในคืนที่นายณัฐวุฒิและนายจตุพรปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ใช้ความรุนแรงและปิดล้อมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่งผลให้นักศึกษารามคำแหงถูกยิงตาย และบาดเจ็บหลายสิบรายสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หากลูกพ่อขุนท่านใดต้องการพบบุคคลทั้งสองก็ให้ไปที่อุทยานราชภักดิ์ในวันจันทร์นี้ตามที่นายณัฐวุฒิได้เชิญชวนไว้” นายวัชระ กล่าว