ที่ประชุม กรธ. ยังไม่ได้ข้อสรุปจำนวน ส.ส. ที่รับรองผลเพื่อเปิดประชุมสภา ระหว่างร้อยละ 90 และ 95 ส่วนโทษแบนห้ามคนที่จำคุกจริงคดีอาญา คดีทุจริตรวมคนได้รับยกเว้นโทษตาม พ.ร.บ. ล้างมลทิน ยกเว้นคดีหมิ่นประมาท หรือคดีลหุโทษ ระบุ บ้านเลขที่ 111 และ 109 สมัครได้หากพ้นโทษแบน 5 ปี ส่วนคนที่ถูกถอดถอนกำลังพิจารณา
วันนี้ (27 พ.ย.) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงความคืบหน้าในการประชุม กรธ. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหลักการบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา ในประเด็นเรื่องหลักการเกี่ยวกับระบบเวลาในการประกาศผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ภายใน 30 วัน เพื่อให้สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งที่ประชุมยังพิจารณาว่าจะต้องได้ ส.ส. เกินร้อยละ 90 หรือร้อยละ 95 ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมด 500 คน เพื่อที่จะเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่หากเสียง ส.ส. ไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กำหนด กกต. จะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่และประกาศรับรองผล ส.ส. ให้ได้ภายใน 15 วัน
โฆษก กรธ. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังพิจารณาหลักการเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. นั้น ในเบื้องต้น กรธ. ได้กำหนดข้อห้ามในการลงสมัคร ส.ส. คือ บุคคลที่ถูกจำคุกจริงในคดีอาญา ยกเว้นคดีหมิ่นประมาทหรือคดีลหุโทษก็สามารถลงสมัคร ส.ส. ได้ รวมทั้งคดีทุจริตที่ถูกศาลตัดสินถึงที่สุด รวมทั้งผู้ที่ได้รับโทษดังกล่าวแต่ได้รับยกเว้นโทษตาม พ.ร.บ. ล้างมลทิน ก็ไม่สามารถมาลงสมัคร ส.ส. ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนักการเมืองบ้านเลขที่ 109 และ 111 ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี จะลงสมัคร ส.ส. ได้หรือไม่ โฆษก กรธ. กล่าวว่า ถ้าหากพ้นโทษทางการเมืองมาแล้ว ก็สามารถลงสมัคร ส.ส. ได้ ในส่วนของผู้ที่ถูกถอดถอนนั้นทาง กรธ. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ.