อดีต ส.ส.ปชป.เผย กทม.ส่งสัญญาซื้อซีซีทีวีไม่มีรายละเอียด ไร้ประโยชน์ในการตรวจสอบ แถมส่งมาแค่หมื่นกว่าตัว ทั้งที่บอกเองติดไป 5 หมื่นตัว ตารางลางานรองผู้ว่าฯ ก็ไม่ส่ง ฉะบ่ายเบี่ยงถ่วงเวลา พร้อมบี้ต่อ
วันนี้ (24 พ.ย.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หลังจากตนทำเรื่องถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อขอรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างกล้องซีซีทีวีตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 ถึงปัจจุบัน รวมถึงและสัญญาเกี่ยวเนื่อง (เพิ่มเติม) ทั้งหมด และขอตารางการลาราชการของนายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯ กทม. เพื่อใช้ตรวจสอบกรณีส่อทุจริตในการปฏิบัติราชการหรือไม่นั้น ปรากฏว่า วันที่ 20 พ.ย.ทาง กทม.ได้ส่งสัญญาการจัดซื้อกล้องซีซีทีวีมาให้ แต่กลับไม่มีรายละเอียดใดๆ ในสัญญา เช่น ทีโออาร์ รายละเอียดการประกวดราคา คุณสมบัติกล้อง ราคาที่เสนอขาย หรือชื่อของบริษัทของผู้ขาย และราคาที่ตกลงซื้อขาย รวมถึงรายการในการติดตั้งการบริการหลังการขาย ซึ่งตามปกติเมื่อถูกร้องขอเพื่อใช้ในการตรวจสอบจะต้องส่งแนบรายละเอียดต่างๆ มาให้ครบ แต่เอกสารที่ กทม.ส่งมาให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบได้เลย
นายวิลาศกล่าวต่อว่า ที่น่าแปลกใจคือ ทาง กทม.ได้ขึ้นป้ายโฆษณาผลงานว่าได้ติดตั้งกล้องซีซีทีวีไปแล้วรวม 4.7 หมื่นตัว แม้แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ก็พูดยืนยันในการการประชุมสุดยอดผู้นำรุ่นใหม่โลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กทม.ได้ติดตั้งกล้องซีซีทีวีไปแล้วรวม 5 หมื่นตัว แต่กลับส่งสัญญาซื้อกล้องซีซีทีวีมาให้ตนระบุจำนวนซื้อ 11,435 ตัวเท่านั้น โดยไม่มีรายละเอียดใดๆ แล้วสัญญาการจัดซื้อฯกล้องส่วนที่เหลืออีกกว่า 3 หมื่นตัว ทำไมจึงไม่ส่งมาให้ เช่นเดียวกับตารางการลางานไปต่างประเทศของรองผู้ว่าฯ ก็ไม่ส่งมาให้ ตนจึงมองว่าเป็นการบ่ายเบี่ยงที่ส่งเอกสารไม่ครบเพื่อถ่วงเวลา และส่อว่ามีการกระทำที่ไม่สุจริต จึงจะทำหนังสือทวงขอรายละเอียดทั้งหมดไปอีกครั้ง หลังจากนี้จะยื่นขอต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารกลางแทนและจะดำเนินการต่อตามกฎหมาย