ที่ประชุมสภากลาโหม เห็นชอบตั้ง 6 กรรมการสภาทหารผ่านศึก เผย “ประวิตร” ให้นโยบายสนับสนุนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช-กิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ-กิจการปฏิรูป ร่วมเฝ้าระวังเหตุจากบุคคลผู้ไม่หวังดี ขอทุกหน่วยไม่ประมาท - ช่วยเหลือรับซื้อผลผลิตเกษตรกร
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลภายหลังประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 11/2558 ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่าที่ประชุมให้ความเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการสภาทหารผ่านศึก ประเภททหารผ่านศึกประจำการ จำนวน 6 คน เพื่อทดแทนอดีตกรรมการสภาทหารผ่านศึกที่ครบกำหนดเกษียณอายุราชการใน 1 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา ดังนี้ 1. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม 2. พล.อ.อ.ถาวร มณีพฤกษ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด 3. พล.อ.วลิต โรจนภักดี รองผู้บัญชาการทหารบก 4. พล.ร.อ.ชุมพล วงศ์เวคิน ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ 5. พล.อ.อ.ปฏิพันธ์ วะนะสุข ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ 6. นายประทีป กีรติเรขา รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
พล.ต.คงชีพกล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตรได้มอบเป็นนโยบายให้กับหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้การสนับสนุนรัฐบาลในการจัดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่กำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 16 ธันวาคมนี้อย่างเต็มความสามารถ และให้หน่วยร่วมจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาพร้อมเครื่องสักการะ พร้อมทั้งเชิญชวนกำลังพลและครอบครัว รวมทั้งประชาชนร่วมถวายความอาลัยและถวายสักการะโดยพร้อมเพรียงกัน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนในการร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 ร่วมกับปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าทั่วประเทศ โดยพร้อมเพรียงกัน พร้อมทั้งร่วมถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการสนับสนุนและร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ปั่นเพื่อพ่อ : BIKE FOR DAD” ของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 11-13 ธ.ค. 58 อย่างเต็มความสามารถ
“พล.อ.ประวิตรเน้นย้ำในเรื่องการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจการปฏิรูป และขับเคลื่อนประเทศ ทั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ให้เป็นไปทิศทางเดียวกันอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อเป้าหมายหลักร่วมกันในการบูรณาการความร่วมมือจากทุกฝ่ายในสังคมเพื่อสร้างเสถียรภาพความเป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติ สู่อนาคตการพัฒนาที่ยั่งยืน และการมีประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และให้ร่วมกันติดตามสถานการณ์ที่อาจเชื่อมโยงกับการก่อการร้ายที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วิเคราะห์ความเชื่อมโยงของกลุ่มต่างๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้ความสำคัญต่อมาตรการเชิงป้องกัน โดยเน้นความความเข้มแข็งของภาคประชาชน ด้วยการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อร่วมกันจัดตั้งและขยายเครือข่ายภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง ต่อการกระทำของกลุ่มบุคคลที่อาจไม่หวังดี ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อส่วนรวมที่จะเกิดขึ้น และเป็นการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน” โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว
โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ขณะเดียวกันก็ขอให้ทุกหน่วยตั้งอยู่ในความไม่ประมาท โดยเข้มงวดกวดขันต่อมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ตั้งหน่วยและพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมทั้ง ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติภารกิจดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่ รวมทั้งพื้นที่เสี่ยง ในความดูแลของหน่วยทั่วประเทศ ตามความเหมาะสมและความจำเป็นของสถานการณ์
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังได้มอบหมายให้ช่วยเหลือปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยพิจารณาใช้ศักยภาพของหน่วย รับซื้อผลิตผลทางการเกษตรตามความต้องการของแต่ละหน่วยงานให้มากขึ้น โดยเฉพาะข้าวและยางพารา เพื่อให้เกิดการพัฒนาและหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจชุมชนมากขึ้น