“ประวิตร” หนุนทหารมีสิทธิเท่าประชาชน รวมการแสดงออกการเมือง แต่ระเบียบวินัยต้องชัดเจน หนุนฝ่ายใดไม่ได้ ไม่ทราบใครสรุปข้อเสนอ คสช. ย้ำต้องมีช่องผ่าทางตัน เมินตอบตัดอำนาจถอดถอน ส.ว. ปัดวิจารณ์การเมือง ชี้ดีแล้วชัดเจน ผบ.ทบ.แถลงผลสอบปมอุทยานราชภักดิ์ ป.ป.ช.ลงมาสอบได้ ขออย่าขยี้ปมหักหัวคิวโรงหล่อ ป้อง “บิ๊กโด่ง” อาจรู้รายละเอียดไม่มาก แจงยังไม่มีมูลนิธิ เป็นเรื่องของ ทบ.
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่งความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ 10 ข้อ ต่อนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยเฉพาะประเด็นที่ 8 ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะทหารต้องมีสิทธิเสรีภาพทุกด้านเช่นเดียวกับประชาชน ไม่ควรถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ แม้กระทั่งสิทธิเสรีภาพการแสดงออกทางการเมือง ด้วยเหตุแห่งอาชีพในการเป็นข้าราชการทหารว่า ก็มีสิทธิมีเสียงอยู่แล้ว ไม่เห็นจะเป็นไร ในทางการเมืองต้องถือว่าทหารก็คือประชาชน เพียงแต่ทหารแต่งเครื่องแบบเท่านั้น ส่วนจะไปขัดต่อ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนปี 2551 มาตรา 82 แต่ทหารมีระเบียบวินัย และมีอาวุธอยู่ในมือ อาจไปสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนั้น คงไม่ไปสนับสนุน กรอบของระเบียบวินัยก็ส่วนหนึ่ง แนวทางการเมืองก็เป็นอีกเรื่อง ต้องแยกกัน เรื่องระเบียบวินัยต้องชัดเจน การจะไปสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด คงทำไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของระเบียบวินัย อย่างไรก็ตาม คงต้องดูรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างให้ออกมาชัดเจนก่อน ตนยังพูดอะไรไม่ได้
“ก็ต้องดูให้เป็นธรรมชาติ อย่าไปอะไรมันมาก คงต้องให้รัฐธรรมนูญออกมาก่อนว่าเป็นอย่างไร ทั้ง 10 ข้อเป็นเพียงข้อคิดเห็นของ คสช. แต่ผมไม่รู้ทราบใครเป็นคนสรุปทั้ง 10 ข้อ” พล.อ.ประวิตรกล่าว
เมื่อถามว่า ในข้อ 6. ปัญหาวิกฤต หรือข้อขัดแย้งทางการเมืองย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ รัฐธรรมนูญอาจเกิดภาวะทางตัน ดังนั้น การร่างรัฐธรรมนูญควรบัญญัติช่องทางผ่าทางตันเพื่อรองรับสถานการณ์ไว้ด้วย โดยเฉพาะการเกิดปัญหาสุญญากาศด้านนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ยังเป็นความเห็นของ คสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า น่าจะเป็นแบบนั้น เราจะทำอย่างไรไม่ให้กลับมาเหมือนเดิม อย่าให้มีทางตัน ทางนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.จะทำเขียนรัฐธรรมนูญไม่ให้เกิดทางตัน ก็ต้องแล้วแต่ท่าน ทาง คสช.ไม่ต้องการให้การเมืองเกิดทางตัน เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้นมาอีก ยังไงทั้งหมดก็ต้องนำไปสู่ประชามติ อย่าไปกังวลมากจนเกินไป คงต้องดูว่านายมีชัยจะเขียนออกมาอย่างไร ทาง คสช.เพียงแค่เสนอความคิดเห็น
เมื่อถามว่า มองอย่างไรเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของ ส.ว.ไม่มีอำนาจถอดถอน พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามโดยกล่าวว่า “อย่าเพิ่งมาถามผมตอนนี้เลย เดี๋ยวผมจะกลายเป็นว่าไปวิจารณ์การเมือง ผมไม่อยากวิจารณ์การเมือง ให้ กรธ.เขาดำเนินการออกมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน ผมไม่อยากพูดอะไร พูดแล้วเดี๋ยวก็เป็นประเด็นอีกว่าชี้นำ หรือต้องการแบบนี้ ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ประชาชนต้องการอะไรผมก็อยากให้เป็นแบบนั้นล่ะ หนังสือพิมพ์ต้องการยังไง ก็เขียนให้ประชาชนเขาสิ เขายอมรับก็เอา แต่ต้องให้มันเป็นกลาง ทำให้ประเทศมันอยู่ได้ มีความเจริญรุ่งเรือง”
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แถลงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงในโครงการอุทยานราชภักดิ์ว่า ดีแล้ว เขาก็ชัดเจน จะให้คะแนนการแถลงคงไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของการสอบสวน เป็นเรื่องความจริง หรือไม่จริง ซึ่ง ผบ.ทบ.ไม่ได้รายงานตนก่อนการแถลง เป็นเรื่องของกองทัพบก ส่วนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะขอลงมาตรวจสอบนั้นก็มาตรวจสอบได้ไม่มีปัญหา ได้ทั้งนั้น ไม่เป็นไร สามารถลงมาตรวจสอบได้
ถามว่า ทาง ผบ.ทบ.ดูเหมือนจะปิดทางการเข้ามาตรวจสอบของ ป.ป.ช. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่อง ป.ป.ช.เป็นเรื่องของการร้องเรียน ถ้ากองทัพบกเห็นว่าถึงขั้นการร้องเรียน เขาก็ส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช. ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็ต้องสอบสวนตามแนวทางที่มีอยู่ ถ้า ป.ป.ช.สงสัยก็สอบถามมา ถ้าข้อมูลยังไม่เพียงพอก็ขอไปดูเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม
ส่วนกรณีการหักหัวคิวโรงหล่อ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมกล่าวว่า “ผมไม่รู้เรื่อง ให้เขาว่ากันไปตามการสอบสวนดีกว่า อย่าไปพูดเลย รายละเอียดตั้งเยอะ มาถามเรื่องนี้ แล้วเอามาเป็นประเด็น มันจะได้มั้ย สมมติว่าชีวิตคุณยาวเหยียด ทำมาแทบตาย แต่กลับไปถามตรงจุดที่เกิดมา แค่ตรงนั้น มันจะได้ไง”
ซักต่อว่า ทางที่ดีควรให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อดีต ผบ.ทบ.มาแถลงด้วยตนเองจะดีกว่าหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ดี ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า ทำไม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องให้เป็นการสอบสวน เขาอยากจะสอบกัน แล้วจะทำอย่างไรก็ทำไป ทาง พล.อ.อุดมเดชจะรู้รายละเอียดได้มากอย่างไร เขาอาจจะไม่ลงรายละเอียดหรืออย่างไรตนไม่รู้ คงต้องให้ทางกองทัพบกดำเนินการ มาถามตน ตนยังไม่รู้เลย ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า แต่ทาง ผบ.ทบ.ให้ไปถาม รมช.กลาโหม เรื่องหักหัวคิว พล.อ.ประวิตรตอบว่า คุณลองไปถามเขาดูสิ ตนจะไปรู้ได้ยังไง
ต่อข้อถามที่ว่าจะแนะนำให้ พล.อ.อุดมเดชตั้งโต๊ะแถลงข่าวในฐานะมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ให้เคลียร์ไปเลยได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มูลนิธิยังไม่มี ไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย ตนถาม พล.อ.ธีรชัย ได้คำตอบว่าไม่มี มูลนิธิยังไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นเรื่องของทางกองทัพบกทั้งหมดที่จะต้องรับผิดชอบส่วนที่เหลือ มูลนิธิเพียงแค่กำลังจะตั้งขึ้นมา แต่ยังไม่ได้ทำ