นายกฯ ไทย พบผู้นำปาปัวนิวกินี ต่างยืนยันร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในทุกมิติ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือทั้งด้านการค้าการลงทุน ประมง และพัฒนาด้านการเกษตร ขณะเดียวกัน “ประยุทธ์” ขอบคุณที่ซื้อข้าวจากไทย ด้านผู้นำฯ ปาปัวนิวกินี ขอตั้งสถานทูตในประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงแรมดุสิตธานี สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (18 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบหารือทวิภาคีกับนายปีเตอร์ โอนีล (Hon. Peter O’Neill) นายกรัฐมนตรีรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 23
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญในการหารือครั้งนี้ว่า ผู้นำทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง หลังจากที่เคยมีโอกาสร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 22 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีและชื่นชมต่อความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Pacific Islands Forum (PIF) ครั้งที่ 46 และ Post-Forum Dialogue (PFD) ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 7-11 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา และการจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก และการประชุมที่เกี่ยวข้องในปี 2561 ซึ่งไทยพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์และสนับสนุนปาปัวนิวกินีในเรื่องกระบวนการเตรียมการเป็นเจ้าภาพดังกล่าว ทั้งนี้ ไทยและปาปัวนิวกินีมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันมีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นและขยายในทุกมิติ และเห็นพ้องที่จะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์ให้ครอบคลุมในทุกมิติมากยิ่งขึ้นต่อไป
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านการค้าการลงทุน โดยเฉพาะการประมง และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านเกษตร ซึ่งนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ได้ เล็งเห็นถึงความสำคัญของสินค้าการเกษตรของไทย โดยเฉพาะข้าว และสนใจที่จะขอคำแนะนำในการปลูกข้าวเพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวขอปาปัวนิวกินี
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณปาปัวนิวกินีที่ให้การสนับสนุนสั่งซื้อข้าวจากไทย ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจในคุณภาพข้าวซึ่งเป็นข้าวชั้นเยี่ยมของโลก นอกจากนี้ ไทยยังมีสินค้าเกษตรประเภทอื่นๆ ที่ขอให้ปาปัวนิวกินีพิจารณาสั่งซื้อเพิ่มเติม ผู้นำทั้งสองยินดีที่ไทยและปาปัวนิวกินีได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการประมง เนื่องจากปาปัวนิวกินีมีทรัพยากรประมงที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบกับไทยมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการประมงที่จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านประมงระหว่างกัน
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือความสัมพันธ์ในมิติอื่นๆ เช่น การส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการ ตลอดจนการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณที่ปาปัวนิวกินีให้การดูแลภาคเอกชนไทยที่เข้าไปลงทุน โดยไทยประสงค์จะให้ปาปัวนิวกินีเป็นศูนย์กระจาย สินค้าและเป็นแหล่งลงทุนของภาคเอกชนไทยในอุตสาหกรรมประมงต่อเนื่อง ไทยสนับสนุนปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างอาเซียนกับปาปัวนิวกินีในฐานะผู้สังเกตการณ์พิเศษของอาเซียน และยินดีที่ปาปัวนิวกินีมีความสนใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกอาเซียนซึ่งการรับสมาชิกใหม่ของอาเซียนจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้ในกฎบัตรอาเซียน
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินียังได้กล่าวถึงความสำคัญถึงการเปลียนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลประทบต่อประเทศในหมู่เกาะเอเชียแปซิฟิกและภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีการหารือในการประชุมระดับผู้นำ ณ กรุงปารีส ในปลายเดือนนี้ นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินีได้แจ้งความประสงค์ที่จะเปิดสถานเอกอัครราชทูตปาปัวนิวกินีในประเทศไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติ ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศยังได้ต่างเชิญชวนเยือนประเทศซึ่งกันและกันในโอกาสที่สะดวก