เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เผยนายกฯ กำชับ ครม.ห่วงความสงบเรียบร้อย ขณะที่ “ประวิตร” สั่งการข่าวเตรียมตัวติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ยันไทยไม่ใช่เป้าหมายกลุ่มรัฐอิสลามตั้งสาขา ไม่มีการเคลื่อนไหว คาด 6 กลุ่มในภูมิภาคแค่ใช้ชื่อแสวงหาการสนับสนุน ระบุร่วมมือเพื่อนบ้านแลกเปลี่ยนข่าวสารตลอด ส่วนไฟใต้ยังไม่มีข่าวจะร่วมเหตุแนวคิดต่าง แต่ต้องระวัง ขอชาวบ้านอย่ากังวล ยันไม่ประมาท เผยอุยกูร์เหลือ 55 คนรอจีนเช็กคดีก่อน
วันนี้ (17 พ.ย.) ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แถลงข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำชับในที่ประชุม ครม.ถึงความห่วงใยในการดูแลความสงบเรียบร้อย หลังจากที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส เพราะขณะนี้รัฐบาลกำลังเตรียมการดำเนินกิจกรรมสำคัญๆ หลายอย่าง เช่น วันพ่อแห่งชาติ ปั่นเพื่อพ่อ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง จึงได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงโดยเฉพาะงานด้านการข่าวเตรียมตัวติดตามสถานการณ์ซึ่งอาจจะมีผลกระทบมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทุกหน่วยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะด้านการข่าว ยืนยันหากมีเหตุการอะไรเกิดขึ้นเรามีความพร้อมของหน่วยงานที่จะเข้าไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แม้ไม่มีเหตุหน่วยงานเหล่านี้ก็มีการซ้อมกันอยู่ทุกปี นอกจากนี้ เรายังติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสในพื้นที่ตะวันออกกลางอยู่ตลอด และจากการข่าวไทยไม่ใช่เป้าหมายที่กลุ่มไอเอสจะมาตั้งสาขา เนื่องจากเจตนาของกลุ่มดังกล่าวจะเคลื่อนไหวในพื้นที่ตะวันออกกลาง
พล.อ.ทวีปกล่าวอีกถึงกระแสข่าวที่กลุ่มไอเอสจะตั้งสาขาในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ว่า เราได้ติดตามข่าวนี้ด้วยความห่วงใย เพราะกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคนี้มีด้วยกันประมาณ 6 กลุ่ม เช่น กลุ่มอัลกออิดะห์ อาบูไซยาฟ เจไอ ซาลามูยา โดยเคลื่อนไหวในประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ บ้านเราที่ขณะนี้ได้รับการสนับสนุนน้อยลง จึงพยายามใช่ชื่อไอเอสในการแสวงหาการสนับสนุนเพิ่มเติม เพราะกลุ่มดังกล่าวมีบทบาทมากจึงอยากนำตัวเองเข้าไปร่วมกับกลุ่มไอเอสหวังการสนับสนุนเพิ่มเติม แต่จากติดตามสถานการณ์กลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีความคิดที่แตกแยกกันอยู่ว่าจะเป็นสาขาหนึ่งของไอเอส หรือยังเป็นกลุ่มเดิมอยู่ เราจึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ส่วนตัวเห็นว่าขณะนี้กลุ่มไอเอสก็ไม่ได้สนับสนุนอะไรมาก อย่างไรก็ตาม เราได้ร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด ส่วนที่กลุ่มไอเอสมีการสื่อสารทางไซเบอร์นั้นเรามีหน่วยงานที่ติดตามดูอยู่แล้ว และจากเหตุการณ์ที่ประเทศฝรั่งเศสก็มีกลุ่มที่ประกาศต่อต้านไอเอสในโลกไซเบอร์อยู่แล้ว
เมื่อถามอีกว่า ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีเชื้ออยู่แล้วจะป้องกันอย่างไร พล.อ.ทวีปกล่าวว่า เราก็ติดตามอยู่ ขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุอะไร ว่ากลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส เพราะมีแนวคิดที่ต่างกัน แต่ก็ต้องระมัดระวัง ที่ผ่านมาเราคอยสอดส่งอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้ยืนยันว่าไม่มีกลุ่มไอเอสเข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทย
เมื่อถามอีกว่า ในประเทศไทยต้องเฝ้าระวังจุดใดเป็นพิเศษบ้าง พล.อ.ทวีปกล่าวว่า จุดที่มีประชาชนรวมตัวอยู่มาก เช่น ศูนย์การค้า แต่ขออย่ากังวล ยืนยันทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ทางการข่าวยังไม่มีอะไรบ่งชี้ และแม้ยังไม่มีเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ประมาท เมื่อถามต่อว่า อย่างกรณีอุยกูร์ เราต้องเฝ้าระวังด้วยหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เราต้องเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เคยก่อเหตุต่างๆ ก่อนหน้านี้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ถามอีกว่าขณะนี้มีชาวอุยกูร์ อยู่ประเทศไทยอีกกี่คน พล.อ.ทวีปกล่าวว่า ขณะนี้เหลืออยู่ 55 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด เพราะผู้หญิงและเด็กได้มีการส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 แล้ว กลุ่มที่เหลือหากไม่มีคดีความในประเทศจีนก็จะส่งไปยังประเทศที่ 3 ต่อไป