อดีต ส.ส.ปชป.ย้อน “บิ๊กป๊อก” ออกตัวเร็วป้องที่ปรึกษา มท.2 ปมปล่อยน้ำเสียที่อุบล โบ้ยความขัดแย้งสองพรรคการเมือง จี้อย่าฟังแต่รายงาน ลงพื้นที่ไปดูเองชาวบ้านเดือดร้อน ย้ำไม่เกี่ยวเรื่องการเมือง แฉโปรแกรมนายกฯ ไปเยือนใกล้จุดดังกล่าวถูกตัดทิ้ง ฉะไม่แก้ปัญหาจะชนะใจชาวอีสานอย่างไร
วันนี้ (10 พ.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ออกมาปกป้องนายศิวะ แสงมณี ที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย (นายสุธี มากบุญ) เป็นผู้ถือหุ้นในกลุ่มโรงงานบริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด ที่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำลำโดมใหญ่ และแม่น้ำมูลทำให้ปลาตายมีผลต่อการผลิตน้ำประปาและมีการรุกล้ำลำหวยสาธารณะและทางสาธารณะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนนับพันครอบครัว และหาว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้งของสองพรรคการเมืองว่า พล.อ.อนุพงษ์เป็นเสนาบดีใหญ่ของฝ่ายมหาดไทย มีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ ไม่ควรออกตัวเร็วถึงขนาดนี้ อย่าฟังแต่คนรายงานในห้องแอร์ แต่ควรลงไปดูข้อเท็จจริงในพื้นที่ เพราะทราบว่าที่ปรึกษา มท. 2 ของท่านมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการโรงงานคนที่ 1 ด้วย และกลุ่มโรงงานนี้ได้ปล่อยน้ำเสียทำให้แม่น้ำลำโดมใหญ่และแม่น้ำมูลเน่าเสียชาวอีสานหาเช้ากินค่ำได้รับความเดือดร้อนมากนับพันครอบครัว และไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากทางสาธารณะ และลำห้วยสาธารณะได้ การบุกรุกที่สาธารณะเป็นอาญาแผ่นดิน เมื่อชาวบ้านมาร้องเรียนตนก็ต้องทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้แก่คนยากคนจน ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งของสองพรรคการเมืองอย่างที่ท่านเข้าใจแต่อย่างใด
“ถ้าพรรคการเมืองสองพรรคขัดแย้งกันแล้วจะทำให้แม่น้ำลำโดมใหญ่เน่าเสียได้อย่างไร มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ทางออกของเรื่องนี้ต้องพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในพื้นที่ ไม่ใช่รอรายงานแต่บนหอคอย แล้วท่านจะไปรู้ความทุกข์ยากของชาวอีสานได้อย่างไร”
นายวัชระกล่าวว่า ล่าสุดกำหนดการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เดิมมีกำหนดการไปติดตามการดำเนินนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาลที่บ้านนาเยีย หมู่ที่ 1 ต.นาเยีย อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี บริเวณที่กลุ่มโรงงานปล่อยน้ำเสียตั้งอยู่ แต่ปรากฏว่ากำหนดการใหม่ของท่านนายกรัฐมนตรีที่จะไปตรงนั้นถูกตัดทิ้งไป เพราะข้าราชการมหาดไทยบางส่วนชอบทำงานแบบผักชีโรยหน้าและซุกปัญหาไว้ในชนบท เพราะเกรงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเห็นปัญหา ถ้านายกฯ ไม่ไปจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ชาวอีสานได้อย่างตรงจุดแล้วอย่างนี้รัฐบาลจะชนะใจพี่น้องชาวอีสานได้อย่างไร
