xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ยอมจ้อสื่อ หลังงดสัมภาษณ์นับสัปดาห์ บอกต่อไปจะพูดแต่เรื่องสำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ยอมคุยสื่อ หลักให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายหลังประชุม ครม.สัปดาห์ที่ผ่านมา บอกต่อไปจะพูดแต่เรื่องสำคัญ ไม่จ้อสิ่งที่ทำให้ขัดแย้ง ขณะเดียวกันยังโชว์พลังแข้งเตะเข้าบั้นเอว หยอกล้อนักมวยที่มาแสดงศิลปะมวยไชยาให้ชม



ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นำผู้บริหารทุกกรมในสังกัด และศิลปินดารา ประชาสัมพันธ์กิจกรรมเนื่องในปีรณรงค์ความเป็นไทย โดยกรมศาสนา ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ตักบาตรช่วงในวันออกพรรษา วันที่ 27 ต.ค.เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และการตักบาตรเทโวโรหณะ ในวันที่ 28 ต.ค.ร่วมกันถวายผ้าพระกฐินตามวัดต่างๆ ระหว่างวันที่ 28 ต.ค. - 25 พ.ย. 2558 โดยในกิจกรรมได้นำผ้ากฐินและธงกฐินมาจัดแสดงด้วย

ทั้งนี้ นายกฯ ได้พูดถึงธงกฐินที่นำมาแสดงซึ่งมีธงจระเข้ ธงนางมัจฉา ธงตะขาบ และธงเต่าว่า ธงเหล่านี้มีมานานแล้ว หลายคนอาจยังไม่รู้จักและไม่เข้าใจความหมาย อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ และฟื้นฟูให้ทุกคนได้มีความเข้าใจเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะสูญหายไปได้ ขอให้ทุกคนได้ช่วยกัน ขณะเดียวกันอาจารย์แม่มาตา เทวลัยองค์พระบิดา มารดาศรีมหากาลี มอบพระสารีริกธาตุให้แก่นายกฯ โดยนายกฯ บอกจะเก็บรักษาไว้ที่ทำเนียบรัฐบาล

จากนั้นนายกฯ ชมการแสดงมารยาทไทย เช่น การยิ้ม การไหว้และการขอโทษ การใช้ผ้าไทยผ้าถิ่น การใช้ภาษาท้องถิ่น การส่งเสริมภาพยนต์ไทย ภูมิปัญญาไทย การแสดงเพลงฉ่อยของชาวมอญ ขนมไทยโบราณ และชมผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้ พร้อมชมการแสดงศิลปมวยไทยไชยา หรือมวยคาดเชือก หลังจบการแสดงนายกฯ ยังเรียกเสียงฮือฮาด้วยการออกลีลาแม่ไม้มวยไทย “เหวี่ยงแข้งไชยา” หรือการเตะตัดเข้ากระเดียดน้ำ (บั้นเอว) หยอกล้อนักมวยที่มาแสดง พร้อมระบุว่าวิชาศิลปะมวยไทยแบบนี้ควรจะให้กระทรวงศึกษาธิการบรรจุในภาคบ่ายให้แก่นักเรียนหลังที่เลิกเรียนทางวิชาการแล้ว เพื่อที่นักเรียนคนใดสนใจจะได้ศึกษาเพิ่มเติม ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาและฟื้นฟูศิลปะว่า “ทำอะไรก็แล้วแต่อย่าให้เป็นภาระ รณรงค์อะไรต้องให้ประชาชนสมัครใจ อย่างการแต่งชุดไทยมีก็ใส่ ไม่มีก็ไม่ต้องใส่”

พล.อ.ประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ครม.ถึงสาเหตุที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “ทำไม แล้วผมไม่ทำงานหรืออย่างไร” เมื่อถามว่าเป็นยุทธศาสตร์ในการที่จะให้สัมภาษณ์ใหม่กับสื่อมวลชนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปฏิเสธว่า “ผมไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มี แต่ผมอยากพูดเมื่อไหร่ผมก็จะพูด แต่ที่ต้องหยุดก็เพราะว่าผมไม่อยากพูดไง”

เมื่อผู้สื่อข่าวกระเซ้าว่าไม่พูดนานๆ ประชาชนคงคิดถึง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมคิดถึงเขากว่าที่เขาคิดถึงผมอีก แต่ต่อไปเรื่องสำคัญๆ ผมก็จะพูด ไม่สำคัญก็จะไม่พูด ไม่เพิ่มความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งตอนนี้มีเยอะอยู่แล้ว ขออย่าไปเริ่มกันนักเลย เพราะทุกอย่างจะเดินหน้าไม่ได้นะ” เมื่อถามว่าจากนี้ไปจะลดการให้สัมภาษณ์ลงใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 20 ต.ค.ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้สื่อข่าวได้เจอหน้านายกฯ หลังจากเก็บตัวเงียบทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้ามาตลอดเกือบทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์อีกเลย หลังให้สัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค.หลังประชุม ครม.

ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมรับชมกิจกรรมเนื่องในปีรณรงค์ความเป็นไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม ที่ได้นำการแสดง ที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทย ในรูปแบบต่างๆ มาถ่ายทอดให้ชมเป็นตัวอย่าง อาทิ มารยาทแบบไทย ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ นาฏศิลป์ กีฬา และศิลปะแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมีนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องสยามยุทธ มาโชว์ศิลปะมวยไทยไชยาแบบสดๆ ซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยาก

“นายกรัฐมนตรี ประทับใจกับศิลปะมวยไทยไชยยา ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แสดงออกถึงความเป็นนักต่อสู้ของคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ได้อย่างยอดเยี่ยม และท่านยังได้หยอกล้อกับนักมวยในแบบที่เป็นกันเอง ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มาทำข่าว พร้อมสนับสนุนให้ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำศิลปะมวยไทยนี้ ไปปรับให้เข้ากับแนวนโยบายของรัฐบาลเรื่อง ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ให้เด็กไทยได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนศึกษาศิลปะป้องกันตัวนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ เชื่อว่าการรณรงค์นำความเป็นไทย สู่ใจประชาชน ที่นำโดยกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาครั้งนี้ จะสามารถเชื่อมโยงไปถึงชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไปได้มากขึ้น รวมถึงการปลูกฝังให้กับเด็กและเยาวชนต่อไป สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลชุดนี้ ที่ต้องการส่งเสริมให้เกิดความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้มากที่สุด.













กำลังโหลดความคิดเห็น