ผู้ว่าการ ททท.แถลงจัดมหกรรมแข่งขันจักรยานทางไกลประเทศไทย “นักปั่นแห่งลุ่มน้ำโขง” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อสนองพระราชดำริฯ ส่งเสริมปั่นจักรยาน กระตุ้นท่องเที่ยวภาคอีสาน รองรับปิดตลาดท่องเที่ยวในภูมิภาค คาดนักปั่นร่วมนับพัน มีมูลค่าท่องเที่ยว 300-500 ล้าน งานเริ่ม 29 ต.ค. - 1 พ.ย.ประกอบด้วย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร
วันนี้ (15 ต.ค.) ที่ห้องโลตัส ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมแข่งขันจักรยานทางไกลประเทศไทย (Ride to Khong’s Legendary) ตอนนักปั่นแห่งลุ่มน้ำโขง” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ร่วมกับ พ.ต.ท.ธนพล อุ่นเรือน ที่ปรึกษาทีมจักรยาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ดร.กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการกลุ่มด้านการสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนองพระราชดาริฯ ด้านการส่งเสริมการปั่นจักรยาน กระตุ้นการท่องเที่ยวสัมผัสวิถีธรรมชาติ โดยดึงศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีความหลากหลาย ทั้งด้านวัฒนธรรม ภาษา ประเพณีท้องถิ่น และธรรมชาติที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักปั่นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักปั่นจากประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเปิดตลาดการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน และเปิดประสบการณ์ การท่องเที่ยวผ่านเส้นทางการปั่นจักรยาน เป็นจุดเริ่มต้นการจัดแข่งขันจักรยานทางไกลระดับนานาชาติของไทย โดยคาดว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีนักแข่งเข้าแข่งขันจากทั่วโลกนับพันคน มีมูลค่าการท่องเที่ยว 300-500 ล้านบาท จึงเชิญชวนชาวอีสานร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักปั่น
นายยุทธศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับกำหนดการจัดงานครั้งนี้ขึ้นระหว่างวันที่ 29 ต.ค. - 1 พ.ย. 58 ในพื้นที่ 4 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร การจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ โดยกิจกรรมหลักจะเป็นการแข่งขันในแบบ 3 วัน 3 Stage รวมระยะทางประมาณ 245.9 กิโลเมตร ได้แก่ Stage ที่ 1 เส้นทาง หนองคาย-บึงกาฬ (เปิดตานานลุ่มแม่น้าโขง) Stage ที่ 2 เส้นทางนครพนม-มุกดาหาร (พญาแห่งสายน้ำ) และ Stage ที่ 3 เส้นทางมุกดาหาร-ภูมโนรมย์ (ขุนเขาแห่งความเร็ว) แต่ละเส้นทางจะเป็นเส้นทางท้าทาย ผ่านจุดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ ได้แก่ วัดอาฮงศิลาวาส (สะดือแม่น้ำโขง) พระธาตุพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว หอแก้วมุกดาหาร และภูมโนรมย์
“นักปั่นสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ทั้งแบบ Full stage คือ ครบทั้ง 3 เส้นทาง หรือจะร่วมแข่งขันเพียง 1 Stage หรือ 2 Stage โดยผู้ชนะการแข่งขันในแต่ละ Stage จะได้รับรางวัลเสื้อที่ออกแบบพิเศษ พร้อมเหรียญรางวัลและเงินรางวัล ทั้งนี้ ผู้ชนะการแข่งขันเวลารวมทั้ง 3 Stage ของรุ่น Open ชาย-หญิง เสือหมอบและเสือภูเขาและรุ่นทีม 5 คนจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ด้วย” นายยุทธศักดิ์กล่าว