นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ ททท.สำนักงานในประเทศทั้ง 35 สำนักงาน ทำงานบูรณาการร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นเข้ากับแหล่งท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ให้ได้ 10,000 ล้านบาท โดยยอมรับว่า การเข้ามากระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงปลายปีนี้ น่าจะมีความเป็นไปได้มาก เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น)
สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ แบ่งรายได้จากนักท่องต่างประเทศจำนวน 1.4 ล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 7.5 แสนล้านบาท ซึ่ง ททท.คาดหวังว่า การเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วง 3 เดือนสุดท้าย จะสามารถชดเชยรายได้ที่หายไป 10,000 ล้านบาท และยังรักษาเป้าหมายไว้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ททท.เตรียมสร้างจุดพักรถให้กับนักท่องเที่ยว หรือ มิจิ-โนะ-เอกิ (Michi-no-Eki) ของญี่ปุ่น เป็นโมเดลต้นแบบ โดยจะนำร่องใน 12 เมืองต้องห้ามพลาดให้ได้อย่างน้อยประมาณ 10 แห่งในปีนี้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมบริหารจัดการกับ ททท.และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้นำเสนอโครงการกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้เห็นชอบในหลักการ และสั่งการให้ ททท.เร่งของบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณปกติ ที่ ททท.ได้รับอนุมัติงบประมาณ 2559 จำนวน 6,700 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ
สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้ แบ่งรายได้จากนักท่องต่างประเทศจำนวน 1.4 ล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 7.5 แสนล้านบาท ซึ่ง ททท.คาดหวังว่า การเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วง 3 เดือนสุดท้าย จะสามารถชดเชยรายได้ที่หายไป 10,000 ล้านบาท และยังรักษาเป้าหมายไว้ที่ 2.2 ล้านล้านบาท
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ททท.เตรียมสร้างจุดพักรถให้กับนักท่องเที่ยว หรือ มิจิ-โนะ-เอกิ (Michi-no-Eki) ของญี่ปุ่น เป็นโมเดลต้นแบบ โดยจะนำร่องใน 12 เมืองต้องห้ามพลาดให้ได้อย่างน้อยประมาณ 10 แห่งในปีนี้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมบริหารจัดการกับ ททท.และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้นำเสนอโครงการกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้เห็นชอบในหลักการ และสั่งการให้ ททท.เร่งของบประมาณเพิ่มเติมจากงบประมาณปกติ ที่ ททท.ได้รับอนุมัติงบประมาณ 2559 จำนวน 6,700 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ