กกต.ระบุมีอดีตกรรมการการเลือกตั้งนั่งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องดี หวังให้ความเห็นจัดการปมเลือกตั้ง กลไกคัดกรองคนสู้การเมือง ขจัดโกง ยันพร้อมสนับสนุน แนะนำงวดที่แล้วไม่ผ่านเป็นบทเรียนให้มองรากฐานปัญหาให้ออก ถ้าลอกของต่างชาติมาคงไม่เหมาะ ชี้นักการเมืองไม่ได้มีแค่ซื้อเสียงเพื่อเข้าสู่อำนาจ เชื่อนำคอมเมนต์ชาวบ้านไปสังเคราะห์ ได้ร่างดีสัก 70-80% ก็ดีมากแล้ว ย้ำพร้อมทำประชามติ
วันนี้ (7 ต.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวกรณีมีอดีต กกต.ร่วมเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า คนที่เข้ามาเป็น กรธ.ส่วนใหญ่เป็นคนมีประสบการณ์ในเรื่องข้อกฎหมาย หลายคนก็เป็นบุคคลสำคัญในอดีต และการที่มีอดีต กกต.ร่วมเป็น กรธ.ด้วยถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทั้งสองคนคงใช้ประสบการณ์ในการแนะนำให้ความคิดความเห็นที่เหมาะสมเกี่ยวกับปัญหาการจัดการเลือกตั้ง และออกแบบกลไกคัดกรองคนเข้าสู่การเมืองที่จะต้องส่งเสริมคนดีให้เข้าสู่การเมือง และขจัดการทุจริตการเลือกตั้ง โดยในส่วนของ กกต.พร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของ กรธ.ในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลต่างๆ ในปัญหาข้อกฎหมายซึ่งจำเป็นต้องมีการเขียนไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ กรธ.
“คิดว่าการที่ร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่แล้วไม่ผ่านน่าจะเป็นบทเรียนให้กับ กรธ.ชุดนี้ได้เอาไปพิจารณา ว่าการจะยกร่างรัฐธรรมนูญต้องมองรากฐานปัญหาของประเทศให้ออกว่าคืออะไร ไม่ใช่ไปเอารูปแบบจากต่างประเทศมาแล้วมาคิดว่าจะสามารถนำมาใช้กับประเทศไทยได้ เพราะถ้าลอกมาก็คงไม่เหมาะสม อย่างปัญหาการเลือกตั้ง นักการเมืองไม่เพียงมุ่งใช้เงินซื้อเสียงเพื่อเข้าสู่การเมือง แต่จะทำทุกรูปแบบเพื่อให้ตนเองเข้าสู่การเมืองได้ รูปแบบนี้ในต่างประเทศคงไม่มี นอกจากนี้ ในเรื่องการเปิดรับฟังความคิดเห็นในการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่แล้ว การรับฟังความคิดเห็นเป็นเพียงพิธีกรรมที่ทำเหมือนให้เสร็จๆ ไป คือฟังแล้วแต่ไม่ได้นำไปพิจารณา กลับยกร่างฯ ตามความคิดเห็นตนเอง แต่ครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้น น่าจะมีการนำความคิดเห็นที่มีไปสังเคราะห์เพื่อให้เกิดแนวทางการแก้ปัญหาที่แท้จริงด้วย” นายสมชัยกล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองจะยอมรับร่างรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ฝ่ายการเมืองเป็นผู้เล่นการให้เขาอยู่วงนอก รอดูผลการออกแบบน่าจะดีกว่า แต่ก็ต้องรับฟังความคิดเห็น และยึดหลักเหตุผล ส่วนการที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่แล้วไม่ผ่านจะเป็นการกดดัน กรธ.ในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้ต้องผ่านหรือไม่ เมื่อ กรธ.ทุกคนรับที่จะมาทำงานแล้วก็ต้องพิจารณาทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่สังคม เพราะสังคมเองก็คาดหวังว่าเมื่อยกร่างเสร็จแล้ว มีการทำประชามติ ก็จะได้เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง และร่างรัฐธรรมนูญที่เสร็จแล้วก็ต้องเป็นร่างที่ดี แม้จะไม่ดี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าได้ 70-80 เปอร์เซ็นต์ก็ดีมากแล้ว ส่วนการทำประชามตินั้น กกต.ก็พร้อมดำเนินการหลังร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ โดยเราสามารถดำเนินการได้โดยใช้เวลาในการทำประชามติ 45 วัน และการจัดพิมพ์เอกสารเพื่อเผยแพร่ประมาณ 2-3 เดือน รวมระยะเวลาในการดำเนินการเพื่อออกเสียงประชามติคาดว่าจะไม่เกิน 3 เดือนครึ่งถึง 4 เดือน