“เสี่ยจ้อน” ขอบคุณ “ประยุทธ์” ให้ สปช.บางส่วนนั่ง สปท.ทำหน้าที่ต่อเนื่อง แจงหน้าที่ต่างกันต้องขับเคลื่อนปฏิรูป แต่ไม่ได้คล้อยตาม ครม. โนคอมเมนต์เลือกประธาน คาดวาระ สปท.ถึงก่อนเลือกตั้ง เชื่อคนละส่วนกับที่ “บวรศักดิ์” ออกแบบ “วันชัย” ไม่กังวลถูกครหานั่ง สปท.เหตุคว่ำร่างเดิม เพราะมีทั้งคนคว่ำ-ไม่คว่ำรับตำแหน่ง รับ สปท.เหมือนมือไม้ ครม. แนะบุคลิกประธานควรคล้ายนายกฯ
วันนี้ (6 ต.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เลือกอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) บางส่วนเข้ามาทำงานในส่วนนี้ซึ่งจะทำหน้าที่ทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การทำงานของ สปท.จะแตกต่างไปจาก สปช. โดยในส่วนของ สปช.ที่ผ่านมาเป็นผู้ออกแบบพิมพ์เขียวในการปฏิรูปประเทศ แต่ สปท.ต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อนให้การปฏิรูปเห็นเป็นรูปธรรม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องคล้อยตาม ครม.ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการปฏิบัติ ทั้งนี้ยังเห็นว่าการทำงานต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบแตกต่างไปจากเดิม ที่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมในนัดแรกว่าจะตกลงกันอย่างไร โดยโจทย์ของ สปท.ยังคงเป็นเรื่องที่จะต้องสร้างความปรองดอง ทำให้เกิดการปฏิรูป และไม่ให้เกิดปัญหา
ส่วนใครสมควรจะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานนั้น ตนไม่ขอออกความเห็นเพราะคิดว่าทุกคนมีความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ยังไม่มั่นใจว่าวาระของ สปท.จะดำรงอยู่ถึงเมื่อไหร่ แต่ถ้าดูตามกฎหมายในขณะนี้คงจะถึงก่อนเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญด้วยว่าจะกำหนดอย่างไร แต่เชื่อว่าสภาขับเคลื่อนชุดนี้คงไม่ใช่ชุดเดียวกับสภาขับเคลื่อนในร่างรัฐธรรมนูญที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เคยออกแบบไว้ เพราะคนละส่วนกัน
ด้านนายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปท.กล่าวว่า ตนไม่กังวลว่าจะถูกสังคมครหาว่าได้รับเลือกกลับมาเป็น สปท.อีกครั้งเพราะเคลื่อนไหวคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก สปท.ที่ได้รับแต่งตั้งเข้ามาครั้งนี้ก็มีทั้งอดีต สปช.ที่ลงมติทั้งคว่ำและไม่คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ กลับมาสัดส่วนใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม การทำงานเห็นว่าต้องมีการปฏิรูปใหม่ โดยต้องมีการหารือกันในส่วน สปช.เดิมว่าแนวทางการทำงานควรเป็นอย่างไร
“ส่วนตัวเห็นว่า สปท.เปรียบเหมือนการขับรถที่ต้องขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิรูปให้ได้ แม้อำนาจจะเป็นของ ครม. แต่ก็มีหน้าที่ผลักดันประสานกับทุกฝ่ายเพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรม จึงยอมรับว่า สปท.เปรียบเหมือนมือไม้ของ ครม. เพราะรถยนต์จะเคลื่อนหัวได้ก็ต้องมีเครื่องจักร ส่วนการทำงานจะต้องมีการวางกรอบให้ชัดเจนว่าในเวลา 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง”
นายวันชัยกล่าวว่า ตลอด 1 ปีจากนี้ไปเชื่อว่าสิ่งที่จะได้เห็นเป็นรูปธรรมคือการเลือกตั้งที่สุจริต มาตรการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันที่ชัดเจน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนการประชุมนัดแรกคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้เพราะได้รับแจ้งจากเลขาธิการสภาว่าไม่จำเป็นต้องรอให้รายงานตัวครบแต่ถ้ามีมารายงานตัวเป็นส่วนใหญ่ เช่นเหลือประมาณ 10-20 คน ก็น่าจะเริ่มประชุมได้เพื่อเลือกตำแหน่งสำคัญต่างๆ ซึ่งตนเห็นว่าคุณสมบัติบุคคลที่ควรจะดำรงตำแหน่งประธาน น่าจะมีบุคลิกคล้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ คือมีความมุ่งมั่น ทุ่มเท ตั้งใจในการทำงาน แต่ไม่ขอระบุตัวบุคคล
