เผยแพร่คำพิพากษา จำคุกและปรับ 4 นักการเมืองท้องถิ่นสุราษฎร์ธานี 3 คน ขอนแก่น 1 คน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ไม่ปรากฏว่าได้รับโทษจําคุกมาก่อนโทษจําคุก ให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 1 ปี
วันนี้ (30 ก.ย.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย
“1. คดีหมายเลขดําที่ อม. ๑๘/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดง ที่ อม. ๓๔/๒๕๕๘ พิพากษา นายธนเดช เงี่ยนตั้น ระหว่างดํารงตําแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางงอน อําเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีเข้ารับตําแหน่ง และกรณีพ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๒ และมาตรา ๓๓ ห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ และสั่งจําคุกกระทงละ ๒ เดือน และปรับกระทงละ ๘,๐๐๐ บาท รวม ๒ กระทง เป็นจําคุก ๔ เดือน และปรับ๑๖,๐๐๐ บาท โดยนายธนเดช ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา คงจําคุก ๒ เดือน และปรับ ๘,๐๐๐ บาท แต่ไม่ปรากฏว่าได้รับโทษจําคุกมาก่อนโทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖
2. คดีหมายเลขดําที่ อม. ๑๙/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดง ที่ อม. ๓๗/๒๕๕๘ พิพากษาว่า นายอนุสิทธิ์ ศรีฟ้า ระหว่างดำรงตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเกาะสมุย อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีพ้นจากตําแหน่ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๒ และมาตรา ๓๓ ห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันที่พ้นจากตําแหน่ง และสั่งจําคุก ๒ เดือน และปรับ ๘,๐๐๐ บาท แต่นายอนุสิทธิ์ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก ๑ เดือน และปรับ ๔,๐๐๐ บาท แต่ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖
3. คดีหมายเลขดําที่ อม. ๒๐/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดง ที่ อม. ๓๘/๒๕๕๘ พิพากษาว่า นายสุนทร สมหวัง ระหว่างดำรงตําแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเกาะสมุย อําเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง กรณีพ้นจากตําแหน่ง ห้ามมิให้ผู้คัดค้านดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๕ อันเป็นวันที่พ้นจากตําแหน่ง ให้ลงโทษจําคุก ๒ เดือน และปรับ ๘,๐๐๐ บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจําคุก ๑ เดือน และปรับ ๔,๐๐๐ บาท ไม่ปรากฏว่านายสุนทรได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖
4. คดีหมายเลขดําที่ อม. ๕/๒๕๕๘ คดีหมายเลขแดง ที่ อม. ๓๙/๒๕๕๘พิพากษาว่า นายเฉลิม จันทะเกตุ ระหว่างดํารงตําแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนตําบลโพนเพ็ก อําเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น คัดค้าน จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินพร้อมเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่งห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๖ อันเป็นวันที่พ้นจากตําแหน่ง ให้ลงโทษจําคุก ๒ เดือน และปรับ ๘,๐๐๐ บาท แต่นายเฉลิมให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจําคุก ๑ เดือน และปรับ ๔,๐๐๐ บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖”