รมว.มหาดไทยเผยขยายเวลาอนุมัติกองทุนตำบลละ 5 ล้าน ออกไปอีก 15 วัน มั่นใจมาตรการป้องกันการทุจริตรัดกุม ไม่มีการรั่วไหลแน่ เตรียมประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กำชับเจ้าหน้าที่ 3 ต.ค.นี้
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าโครงการมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้าน) ว่า ที่ประชุมยืนยันในหลักการเดิมคือตำบลละ 5 ล้าน แต่ต้องดูก่อนว่าโครงการที่อนุมัติไปก่อนหน้านี้เกิดความซ้ำซ้อนหรือไม่ หากซ้ำซ้อนวงเงินก็จะลดลงไป ในกรณีที่พิจารณาแล้วไม่เกิดความซ้ำซ้อนก็จะได้เต็มจำนวนวงเงินเดิม ส่วนระยะเวลาอนุมัติโครงการจะสามารถเลื่อนออกไปได้ประมาณ 15 วัน คาดว่าน่าจะเพียงพอ หลังจากที่หมดระยะเวลาในวันนี้
“สำหรับมาตรการการป้องกันการทุจริตในโครงการ ผมยืนยันว่ามีแน่นอน แต่ขณะนี้เรายังไม่ได้เริ่มดำเนินการ ยังอยู่ในขั้นของขาขึ้น คือ ต้องเป็นความต้องการของพื้นที่โดยตรง ผ่านคณะกรรมการหมู่บ้านตามกลไกขึ้นมายังอำเภอ จังหวัด แล้วส่งมาให้สำนักงบฯ พิจารณาถึงความเหมาะสมในโครงการต่างๆที่เสนอขึ้นมา ขณะที่การปฏิบัติ หรือขาลง ได้มอบหมายให้หน่วยเกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาร่วม ผมทราบมาว่า ในวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคมนี้ ทางสำนักงบฯ จะขอวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังต่างจังหวัดด้วย ในวันนี้ผมก็จะพูดคุยกับผู้บริหารใหม่ทั้งหมด ทางส่วนเกี่ยวข้องก็จะร่วมชี้แจง รวมถึงจะให้คณะกรรมการหมู่บ้านเข้ามาร่วมด้วย เพราะเขารู้ดีว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความรัดกุมในการปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม คงต้องความชัดเจนจากสำนักงบฯ และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก่อน ผมคิดว่าการรัดกุมครั้งนี้คงไม่รั่วไหลออกไป”
พล.อ.อนุพงษ์ยังกล่าวถึงสถานการณ์น้ำว่า ในที่ประชุม ครม. โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอขอทำแก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาไม่ให้ลงไปในแหล่งน้ำนอกประเภท สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลักๆ ขณะนี้ตัวเลขน้ำเหลืออีกนิดหน่อย เกณฑ์ต่ำสุดที่เราต้องการ คือ 3,500 ลูกบาศก์เมตร คิดว่าเพียงพอสำหรับน้ำอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และเป็นน้ำสำรอง แต่ปัญหาคือจะนำน้ำไปทำนาปรังเพิ่มได้หรือไม่นั้นยังไม่แน่ใจ