เกาะกระแส
00 ต้องเรียกว่าการเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติคราวนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.ประสบความสำเร็จเกินคาดก็ว่าได้ รวมทั้งสามารถพิสูจน์ความศรัทธาและการยอมรับทั้งจากคนไทยและต่างชาติได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญนี่ก็เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า"คนไทยไม่ได้แตกแยก"อย่างที่พยายามชี้ให้เห็นแบบนั้น เพราะในความเป็นจริงมีแค่ "ดีกับชั่ว"และ"โกงกับไม่ยอมให้โกง"เท่านั้น หรือว่ามีแค่พวกสนับสนุนคนโกง กับไม่เอาคนโกงเท่านั้น
00 การเดินทางไปสหรัฐฯเพื่อร่วมประชุมสหประชาชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คราวนี้คงประจักษ์แจ้งแล้วว่า มีคนไทย"พวกไหน"ที่คอยให้การสนับสนุนให้กำลังใจระหว่างอยู่ที่นั่น และสาเหตุที่คนไทยเหล่านั้นยังสนับสนุนมาจากอะไร ไม่ใช่พวกเขาหน้ามืดไม่ลืมหูตา เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีข่าวคราวว่ารัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งบุคคลในคสช.ทุจริต ไม่ทำตามคำพูดก็ต้องถูกขับไล่เช่นเดียวกัน ซึ่งต่างกับอีกฝ่ายที่ขอให้เป็นใครก็ได้ที่เป็นคนในครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร ถึงจะมีเรื่องอื้อฉาวเพียงใดก็ไม่เป็นไร ซึ่งนี่คือความต่างทั้งปริมาณและคุณภาพ
00 ภาพที่ออกมาน่าจะสร้างความผิดหวังกับเครือข่าย ทักษิณ ชินวัตร จนแทบกระอักเลือดกันเลยทีเดียว แม้ว่าในเรื่องของปริมาณมวลชนที่ออกมาสนับสนุนและต่อต้านอาจจะมีความหมายก็จริง แต่เป้าหมายสำคัญของคนพวกนี้ก็คือ ต้องการเห็นท่าทีต่อต้านจากชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯและยุโรป แต่กลับกลายเป็นว่าผู้นำและสื่อตะวันตกพวกนี้กลับ"วางเฉย"หรือแสดงท่าทีออกมาในทางตรงข้ามเสียอีก ที่น่าจับตาก็คือรัฐบาลสหรัฐฯที่เริ่มมีท่าทีในทางบวก อย่างน้อยที่เห็นก็คือในช่วงเดียวกันก็คือเป็นวันที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯคนใหม่ เกล็น เดวีส์ เริ่มเข้าปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยในทันทีเช่นเดียวกัน หลังจากลดระดับความสัมพันธ์เหลือแค่อุปทูตมานานนับปี หรือแม้แต่สื่อสำคัญก็ติดตามความเคลื่อนไหวของ นายกฯไทยตลอดเวลา นี่ก็แสดงให้เห็นสัญญาณใหม่ที่ผิดสังเกต
00 กลับมาถึงไทยราววันที่ 1 ต.ค.ก็ถึงเวลาที่ต้องเปิดชื่อคณะกรรมการยกร่างรธน.จำนวน 21 คน แม้จะทำให้เห็นว่ามีตัวเลือกคนเป็นประธานสองคนคือ อานันท์ ปันยารชุน กับ มีชัย ฤชุพันธุ์ แต่ไม่ว่ามองในมุมไหน มีชัย ก็น่ามาตั้งแต่ในมุ้งแล้ว เพราะต้องไม่ลืมว่าเขาอยู่ในทีมเดียวกันกับ วิษณุ เครืองาม พรเพชร วิชิตชลชัย ฝังตัวอยู่ใน คสช.มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นงานนี้ไม่ใช่แค่เก่งดีเท่าน้นแต่ต้องหวังผลสัมฤทธิ์ในวันหน้าอีกด้วย !!
00 ยืนยันแบบกระชั้นเข้ามาเรื่อยๆจากปากของ รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย วิษณุ เครืองาม ภายในวันที่ 30 ก.ย.คณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายที่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวจะสรุปรายงานตัวเลขมาให้ทราบเพื่อที่จะนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.เพื่อเพื่อพิจารณาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป แต่ในเบื้องต้นคาดว่าตัวเลขความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท โดยแยกฟ้องในส่วนของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สำนวนหนึ่ง บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พานิชย์กับพวกแยกอีกสำนวนหนึ่ง โดยแนวทางที่ดำเนินการมีทั้งฟ้องศาลฎีกาฯดังที่เป็นอยู่และศาลปกครองในคดีแพ่ง ซึ่งต้องใช้เวลา และแม้ว่าจะนานพักใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็ขอให้มีการสรุปส่งฟ้องในศาลเอาไว้ก่อน จากนั้นก็ว่ากันตามกระบวนการ ถึงช้าบ้างแต่ชัวร์ก็โอเค !!