ประธาน สพม.เผยเสนอชื่อ “ธีรภัทร์” นั่ง กรธ. พร้อมชงสมาชิก 8 คนร่วมใน สปท. เชื่อสามารถช่วยงานด้านการมีส่วนรวมของประชาชนได้ เพราะมีสมาชิกทุกจังหวัด แถมที่ผ่านมาได้เสนอผลงานการปฏิรูปมากมาย ยันไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว หวังช่วยผลักดันให้ประเทศเดินหน้า
นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง (สพม.) กล่าวกรณีที่ประชุม สพม.มีมติส่งชื่อต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อคัดเลือกเป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ. )และ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าควรส่งสมาชิก สพม.เข้าไปทำหน้าที่ทั้งในส่วนของ กรธ.และ สปท. โดยเหตุผลที่เสนอชื่อตนคัดเลือกเป็น กรธ.นั้นเนื่องจากที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าตนมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ มีประสบการณ์ทางด้านการเมืองในระดับหนึ่ง และการทำงานของ สพม.น่าจะสามารถช่วย กรธ.ทำงานในด้านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนได้ เนื่องจาก สพม.มีสมาชิกอยู่ทุกจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด มีกลไกขับเคลื่อนที่เรียกว่าคณะกรรมการประสานงานระดับจังหวัด (คปจ.) จึงคิดว่าน่าจะเป็นกลไกที่จะสามารถช่วยทำงานด้านกระบวนการมีส่วนร่วมไปพร้อมกับการร่างรัฐธรรมนูญได้
ส่วนสมาชิก สปท.นั้น ทาง สพม.ได้เสนอรายชื่อไปจำนวน 8 ชื่อ รวมตนด้วย โดยสิ่งสำคัญ สพม.เราเป็นองค์กรที่นำเสนอเรื่องการปฏิรูปประเทศมาโดยตลอดนับตั้งแต่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เราได้เสนอแนวทางการปฏิรูปไปหลายครั้งหลายครา เช่น แนวทางการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและคอร์รัปชัน สพม.ได้ชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญว่าทำอย่างไรให้เกิดระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงและยั่งยืนในสังคมไทย ทำให้ระบอบประชาธิปไตยมีเสถียรภาพ มีความชอบธรรมและมีประสิทธิภาพประสิทธิผลหรือทำให้เกิดประชาธิปไตยแบบกินได้
“เชื่อว่าสิ่งที่ สพม.ได้ดำเนินการปฏิรูปและขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมีความสมบูรณ์มากกว่าองค์กรอื่นๆ แต่เรากลับถูกละเลยในการเข้าร่วมการปฏิรูปประเทศและการเมือง ยืนยันว่าการเสนอรายชื่อครั้งนี้ไม่ได้มีผลประโยชน์ส่วนตัว เพียงแค่เราต้องการผลักดันประเทศให้เดินหน้าไปได้ ช่วงสถานการณ์แบบนี้หากได้คนที่ไม่มีวิสัยทัศน์ ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญมาทำงานก็จะเป็นอันตรายต่อประเทศ”
