“ประวิตร” ยังไม่ทราบมาเลย์จับตัวผู้ต้องสงสัยบึ้ม ไม่ฟันธงปมก่อเหตุ รับปมค้ามนุษย์ก็สำคัญ ปัด เข้มพิเศษวันชาติจีน เหตุระวังตลอดเวลา เผยนายกฯ สั่งให้ช่วยหามือกฎหมายนั่ง กรธ. เขียน รธน.ต้องปรองดอง เป็น ปชต.แบบสากล 22 ก.ย.ดูรายชื่อคร่าวๆ แย้มมีทหารหัวกฎหมายร่วม ตอบไม่ได้มี คปป.-นายกฯ คนนอกหรือไม่ ยังไม่ทราบ ปชต.ที่ไม่มีทางตันร่างแบบไหน ดักยังไม่ทันรวม รธน.กลับบอกว่าเสียของ ลั่นตัดชื่อพวกวิ่งเต้น
วันนี้ (15 ก.ย.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีทางการมาเลเซียควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทรว่า ไม่แน่ใจ ตนตอบอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าจับใครได้ เกี่ยวกับเรื่องอะไร และมีส่วนเกี่ยวข้องเหตุการณ์บ้านเราหรือเปล่า ต้องให้ทางตำรวจประสานงานก่อน เดี๋ยวให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องไปดู เบื้องต้นการประสานงานให้เป็นระดับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน
เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้พอจะสรุปได้หรือยังว่ามูลเหตุเกิดจากเรื่องอะไร พล.อ.ประวิตรตอบว่า มีหลายเรื่อง ยังไม่แน่ใจ ซึ่งเรื่องการค้ามนุษย์ก็สำคัญ เพราะมันทำมานาน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทลายก็เกิดความเสียหายต่อผู้ที่อยู่ในขบวนการเลยทำให้เกิดความแค้น ในชั้นนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งอาจเป็นเหตุจูงใจได้ ส่วนประเด็นอื่นก็ไม่น่าจะมีอะไร
เมื่อถามว่า ในวันที่ 1 ต.ค.ซึ่งเป็นวันชาติจีน ต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์เป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องพิเศษ เราระวังตลอดอยู่แล้ว ต้องระวังให้มากๆ ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจดูแลทุกพื้นที่ที่สำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีประชาชนไปรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างจังหวัดที่อาจจะเกิดการสูญเสียของประชาชนได้ ต้องดูแลทั้งนั้น ได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้วให้วางแผนเตรียมการดูแล เรื่องเหล่านี้ไม่ว่าทหารตำรวจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องร่วมมือกันในการดำเนินการทั้งหมดอยู่แล้ว
พล.อ.ประวิตรยังเปิดเผยภายหลังประชุมร่วม ครม., คสช. และ สนช.ถึงการสรรหาบุคคลที่จะมาทำหน้าที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า นายกฯ สั่งการให้ช่วยกันหาบุคคลที่มีความรู้ด้านกฎหมาย และรู้ว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ควรจะเขียนรัฐธรรมนุญอย่างไรที่จะทำให้เกิดความปรองดองในชาติ ที่สำคัญต้องเป็นประชาธิปไตยแบบสากล รวมถึงต้องรู้ว่า คสช.เขาทำอะไรกันอยู่ ดูความต้องการในภาพรวมของประชาชน โดยให้เวลาในการดำเนินการในช่วงที่นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งต้องช่วยกันหาคนเหล่านี้เข้ามาทำงาน เมื่อนายกฯ กลับมาคงมีการลงนามแต่งตั้งเพราะต้องมีการดูรายละเอียดของแต่ละบุคคลด้วย ถ้าดูไม่ละเอียดสื่อมวลชนจะไปดูละเอียดกว่า โดยในวันที่ 22 ก.ย. ที่จะมีการประชุมร่วม ครม.และ คสช.จะเป็นการดูรายชื่อคร่าวๆ ก่อน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.จะยังไม่ลงนาม จะดูว่าเป็นใครบ้างเพราะมีการเสนอเข้ามาเยอะ เนื่องจากนายกฯ สั่งการทั้ง ครม.ให้ไปช่วยหา
เมื่อถามว่าจะเปิดโอกาสให้แก่ทหารที่มีความรู้ด้านกฎหมายเข้ามาเป็น กรธ.ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ต้องมีบ้างอย่างอดีตเจ้ากรมพระธรรมนนูญทหาร ถ้าเป็นเหตุการปกติทหารคงไม่เข้ามา ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้นขอปิดไว้ก่อน เมื่อถามว่า คำว่าประชาธิปไตยที่เป็นสากล จะไม่มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) และนายกฯคนนอกใช่หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ ถามก้าวหน้าไปไกล เพราะตนไม่ใช่คนร่างเพียง แต่นายกฯสั่งว่าการร่างต้องเป็นหลักสากล เมื่อถามย้ำว่า กลไกขับเคลื่อนประชาธิปไตยไม่ให้มีทางตันจะเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เราก็ไม่อยากให้มีทางตัน ก็ต้องหาทางแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้มีทางตัน ซึ่งควรจะอยู่ในรัฐธรรมนูญ แต่ผมไม่รู้ว่าจะออกมารูปแบบไหน ร่างรัฐธรรมนูญที่แล้ว มี คปป.ใช้หรือไม่ไม่เหมาะสมอย่างไรก็มาว่ากัน แต่เมื่อร่างรัฐธรรมนุญฉบับนั้นไม่ผ่านก็จบไปเพียงแต่จะหยิบส่วนที่ดีมาดูร่วมกับข้อดีของรัฐธรรมนูญ 40 และ 50 ส่วนที่บางคนอาจคิดว่าการรวมรัฐธรรมนูญอาจทำให้เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาเสียของนั้น เราก็ต้องทำไม่ให้เสียของ ยังไม่ทันทำอะไรเลยสื่อก็บอกว่าเสียของแล้ว เราเอาของที่ดีมารวมกัน ปี 40 อะไรที่ทำให้เสียหายเกิดการปกครองไม่ได้ 50 เป็นอย่างไร แล้วมา 57 ของ คสช.ก็ว่าไป
เมื่อถามว่าหากมีการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ จะมีการเรียกปรับทัศนคดิหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า แล้วมันควรหรือไม่ ถ้าไม่สร้างความขัดแย้งก็เอามาเลย เมื่อถามถึงสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศก็ต้องหาคนดีๆ ขับเคลื่อนและปฏิรูปนำคนเหล่านี้มา ซึ่งนายกฯ ได้กำหนดสัดส่วนที่ชัดเจนแล้วมีทั้งฝ่ายการเมืองและทุกสาขาอาชีพ โดยเราพยายามเอาเข้ามา เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีการวิ่งเต้นเพื่อเข้ามาเป็นสภาขับเคลื่อน พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า นายกฯ ว่าอย่างไร ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับไปว่า ตัดชื่อออกเลย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าก็เอาตามนั้น