“สปช.บุญเลิศ” ย้ำไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แม้จะมีคนขอร้องให้เปลี่ยนใจ ดักคอถ้าผ่านก็ขอให้ท่วมท้น ขาวสะอาด ปราศจากครหา บอกถ้าสูสีแล้วโดนประชามติคว่ำจะเสียหาย ทำแตกแยก ปั่นป่วน คนโหวตให้ก็คงรับผิดชอบอะไรไม่ได้ ชี้ควรให้ กมธ.ชุดใหม่ปรับให้ดีก่อน ด้าน “สปช.นิมิต” จวกข่าวล็อบบี้ ยันไม่มีแบ่งฝ่าย ไม่ต้องให้ใครชี้นำ
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายบุญเลิศ คชายุทธเดช สมาชิก สปช. และนายนิมิต สิทธิไตรย์ สปช.อุบลราชธานี ร่วมกันแถลงถึงการลงมติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิก สปช.ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ โดยนายบุญเลิศกล่าวว่า หลังจากประกาศจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญไปก็มีเพื่อน สปช.หลายรายมาขอร้องให้เปลี่ยนใจให้สนับสนุน แต่พวกเราทั้งสองปฏิเสธไปว่าไม่อาจทำเช่นนั้นได้เพราะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ หาก สปช.เสียงส่วนใหญ่ให้ผ่านก็ขอให้ผ่านด้วยคะแนนท่วมท้นและขาวสะอาด ปราศจากข้อครหาว่าได้คะแนนมาอย่างไม่ชอบธรรม แต่ถ้าไม่ผ่านก็อยากให้ได้คะแนนท่วมท้นอย่างเช่นกัน เพราะหากผ่านความเห็นชอบไปอย่างสูสีแล้วถูกคว่ำในชั้นประชามติก็จะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งค่าจัดพิมพ์ ค่าดำเนินการลงมติ รวมกว่า 3,000 ล้านบาท รวมทั้งความแตกแยกปั่นป่วนและความเคลื่อนไหวที่แย่ต่อ คสช. ซึ่ง สปช.ที่ลงมติให้ผ่านก็คงไม่สามารถรับผิดชอบอะไรได้
“ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่าให้ สปช.รับร่างรัฐธรรมนูญไปก่อนแล้วค่อยให้ประชาชนไปลงมติ เพราะมองว่าต้องหยุดร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อน แล้วคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ 21 คน ชุดใหม่ที่นายกรัฐมนตรีจะตั้งขึ้นใหม่มาปรับแก้ให้ดีขึ้นจนเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แล้วค่อยนำร่างที่ได้รับการปรับแก้ไปให้ประชาชนลงมติ” นายบุญเลิศกล่าว
ด้านนายนิมิตกล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่ามี สปช.แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ใช้คำว่าต่างช่วยกันล็อบบี้คะแนนเสียง และพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 ในรัฐบาลว่ามีการชี้ผลการลงมติ ตนขอปฏิเสธว่าข่าวดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความสับสนให้ประชาชน แต่ยังกระทบต่อศักดิ์ศรีของ สปช.ด้วย ทั้งที่ สปช.ทุกคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจากการทำงานด้วยกันมาตลอด 11 เดือน มิตรภาพนี้ไม่ควรพังเพราะผลการลงมติที่ถือเป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว ผลออกมาอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะ แต่เรื่องการรับผิดชอบต่อบ้านเมือง
“สปช.ไม่มีการแบ่งฝ่าย ทุกคนมีเกียรติมีวุฒิภาวะ สามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระ ไม่ต้องมีใครมาชี้นำ การเข้ามาทำงานปฏิรูประเทศ คงไม่มีใครคิดหรือทำเพื่อตัวเอง ทุกคนได้ปฏิญาณว่าจะทำหน้าที่เพื่อชาติ ดังนั้นจึงขอให้ สปช.ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายให้ดีที่สุด” นายนิมิตกล่าว