xs
xsm
sm
md
lg

“ประวิตร” ให้ฟังมีข่าวดี ยันจับได้แล้ว - “จักรทิพย์” บินด่วนรับตัวผู้ต้องสงสัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม
“ประวิตร” ให้ฟังมีข่าวดี ยันจับมือบึ้มได้แล้วก็ไม่ต้องมีมาตรการอะไร ย้อนกลับนักข่าว เสี้ยม! มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องในคดีก็บรรลัย วอนอย่าดึงโยงก่อการร้ายข้ามชาติหวั่นกระทบโลก ยาหอม ตร.ไทยสางปมได้ ด้าน “จักรทิพย์” บินด่วนรับตัวผู้ต้องสงสัยคาดเอี่ยวบึ้มราชประสงค์-สาทร เข้าเค้นสอบที่ กทม. ย้ำทหารไทยเป็นผู้จับกุมเอง

วันนี้ (1 ก.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าและมาตรการต่างๆ ในคดีเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ ว่าเขาจับได้แล้วจะไปวางมาตรการอะไร ส่วนที่มีการขยายผลเตรียมออกหมายจับผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมนั้น ยืนยันว่ามีข่าวดีแน่นอน เขาคงจับได้แล้ว

“ไม่ดีหรือที่จับได้ คดีมีความคืบหน้าไปเรื่อยๆ รวมไปถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ยังไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกับประเด็นระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะยังสอบสวนได้ไม่หมด ที่ไปจับกุมมาเพิ่มเติมผมว่าอยู่ในเครือข่ายเดียวกันทั้งหมด ไม่มีใครไปแจ้งความ ไปบอกไปเล่า ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการในคดีเองแน่นอน” รองนายกฯ

ส่วนความเชื่อมโยงที่อาจมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องในคดี พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า “เจ้าหน้าที่ไหน หมายความว่าไง เชื่อมโยงยังไง ผมยังไม่เข้าใจคำถาม ถามอะไร อยากรู้อะไร ที่บอกว่าเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่หมายความว่าไง คนระเบิด มันจะไปเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร เจ้าหน้าที่เขาก็ไปจับคนที่วางระเบิด ส่วนการเชื่อมโยงทั้งหมดยังไม่รู้ว่าเป็นเครือข่ายยังไง ไปบอกว่าผู้ก่อเหตุไปเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ก็บรรลัยสิ มันไม่ใช่ เจ้าหน้าที่เขาเป็นคนไปทำงาน อย่างนี้ก็เสียหายหมด ยืนยันอีกครั้งคดีคืบหน้าแน่นอน ในเวลานี้คุณต้องชื่นชมตำรวจไทยถึงจะถูก จับแบบนี้ยากจะตาย แต่เขาทำได้ ต้องชื่นชมเขาบ้าง ไปด่าเขาข้างเดียวไม่ไหวหรอก ทำงานติดตามกันไม่ได้หลับได้นอน” รองนายกฯ กล่าว

ส่วนกรณีให้น้ำหนักกับประเด็นที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศมากขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่รู้ ตนจะไปบอกได้อย่างไร เพราะคุณพยายามดึงไปประเด็นก่อการร้ายตลอด ถามแบบนี้ก็เป็นประเด็นก่อการร้าย เรื่องนี้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูล เพราะฉะนั้นอย่าไปถามให้เชื่อมโยงกับประเทศอื่นมันเสียหาย ขณะที่มีการออกหมายจับหญิงไทยต้องสงสัยซึ่งได้เรียกร้องให้รัฐบาลมอบเงินค่าเครื่องบินเพื่อเดินทางมาชี้แจงกับทางการไทยนั้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องติดต่อประสาน

“เมื่อมันเชื่อมโยงว่ามีอย่างนี้ เจอคนแบบนี้ ในสถานที่ที่เจอพยานวัตถุระเบิด เขาก็จำเป็นที่จะต้องออกหมายจับ ถ้าเขาไม่เกี่ยวข้องก็บอกมา เพราะมีชื่อเป็นคนเช่าห้อง แต่ยังไม่รู้ว่าเขามีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ หรือว่าเช่าให้ใคร ต้องอีกหลายขั้นตอน อย่าไปเร่ง เจ้าหน้าที่ทำงานทุกวันอยู่แล้ว” พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่าสำหรับการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเลื่อนไปเป็นวันที่ 3 ก.ย.นี้หรือไม่ ยังไม่ทราบ เขาคงกำลังดำเนินการอยู่

อีกด้านมีรายงานว่า พล.ต.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 11.00 น.ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กำลังจุดตรวจความมั่นคงทหารและตำรวจในพื้นที่บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อยู่ห่างจากชายแดนไทยไทย-กัมพูชา 500 เมตร ว่ามีผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติ ท่าทางมีพิรุธพร้อมกับสะพายเป้ด้านหลัง สวมเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีครีม สวมแว่นตาดำและหมวกแก๊ป ลักษณะคล้ายแขกขาว ใช้เส้นทางที่ไม่ใช้เส้นทางตามปกติ ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ควบคุมตัวและสอบถามรายละเอียด แต่ชายคนดังกล่าวไม่ให้ความร่วมมือ จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศให้เข้ามาตรวจสอบ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ชายคนดังกล่าวเข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัย จากนั้นหน้าที่ตำรวจได้ประสานมาทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก่อนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์จะเดินทางไปสอบสวนด้วยตนเอง

ต่อมาในเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชายคนดังกล่าวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจยังกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวถูกจับที่กัมพูชา และเจ้าหน้าที่ของกัมพูชาได้ส่งตัวมาให้เจ้าหน้าที่ทหารไทย พล.ต.ศรีศักดิ์กล่าวยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทหารไทยเป็นผู้จับกุมเองแน่นอน ด่านดังกล่าวเป็นด่านธรรมชาติที่ตั้งเพิ่มเติมหลังเกิดเหตุระเบิด โดยการทำงานดังกล่าวเป็นการประสานงานของเจ้าหน้าที่ในการตั้งด่าน และงานด้านการข่าวประกอบกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น