งานแรก “รองฯสมคิด” มอบ ก.อุตฯ - BOI หาข้อสรุปเรื่องสิทธิประโยชน์ ในพื้นที่ “ซูเปอร์เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ด้าน “บิ๊กป้อม” คาดเป็นรูปธรรมอีก 1 เดือนนี้ นำร่องพื้นที่ ระยอง กาญจนบุรี สงขลา เร่งกำหนดรายละเอียดเสนอนายกฯ ก่อนโรดโชว์ต่างชาติร่วมลงทุน
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (ขนพ.) โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และผู้แทนจากกระทรวงต่าง ๆ เข้าร่วมการประชุม ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเขตเศรษฐกิจครั้งแรก ภายหลังนายสมคิดเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ การประชุม ขนพ. ครั้งนี้ เป็นการระชุมเพื่อหารือต่อเนื่องจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา ในการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตอุตสาหกรรม (คลัสเตอร์) เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รายงานความก้าวหน้า และได้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีประกอบการพิจารณา เพื่อดำเนินการโดยเร็ว
พล.อ.ประวิตร แถลงภายหลังประชุม ว่า การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ครั้งที่ผ่านมา ได้แบ่งประเภทของอุตสาหกรรมเป็น 7 คลัสเตอร์ เช่น อุตสาหกรรมไอที ชิ้นส่วนยานยนต์ สิ่งทอ สินค้าเกษตรแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า ปิโตรเคมี และสินค้าพิเศษ โดยในวันนี้ได้ลงรายละเอียดว่าจะมีการนำอุตสาหกรรมด้านผลไม้และอาหาร เข้าร่วมอยู่ในการสินค้าพิเศษ ตามที่นายสมคิด เสนอ และได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงร่วมกันดูแลเพื่อให้เกิดเป็นเขตเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นายสมคิด ได้ให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ ) หารือในรายละเอียดร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และเอกชน เพื่อพิจารณาสิทธิประโยชน์ โครงสร้างพื้นฐาน และพื้นที่ที่จะนำอุตสาหกรรมลงในแต่ละพื้นที่ เพื่อไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดนี้อีกครั้ง จากนั้นเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รับทราบ เพื่อพิจารณาอนุมัติคาดว่าจะเป็นรูปธรรมได้ ในเดือนตุลาคมนี้ ก่อนจะดำเนินการไปโรดโชว์ยังต่างประเทศ เพื่อให้ต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุน โดยเบื้องต้นมีการพิจารณาพื้นที่ใน จ.ระยอง กาญจนบุรี และ สงขลา
“ภายในอีก 1 เดือน หรือในเดือนตุลาคมนี้ จะเกิด “ซูเปอร์เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนปัญหาที่ดินที่ยังเป็นปัญหาอยู่นั้น ยังคงมีประเด็นถกเถียงกันในการจัดแบ่งพื้นที่ทำเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น ที่ยังมีบางกลุ่มไม่เข้าใจและต้องรอการพิจารณาภายหลังจากนี้ว่าจะสามารถเพิ่มพื้นที่ได้มากน้อยเพียงใด”