นายกรัฐมนตรี เป็นประธานทำลายงาช้างของกลางผิดกฎหมาย ชี้อากาศร้อนแสดงว่าป่าน้อยลง ชูเจตนารมย์แน่วแน่ปฏิบัติตามไซเตส ระบุต้องดูแลช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมือง เอาฮา! ไม่แน่ใจต้องมีคณะสิทธิมนุษยช้างหรือไม่ ขอช่วยกัน เหตุถูกจับตาติดหนึ่งในชาติทางผ่านการค้า ชูผ่าน พ.ร.บ.งาช้าง ลั่นไทยต้องสะอาด ต้องอยู่ร่วมกับช้างให้ได้ ไม่ให้ถูกฆ่าอีก ขอเป็นแกนนำอาเซียนดูแล รับเสียดายต้องทำลาย แต่ได้ทำบุญให้แล้ว หวังทำต่อเนื่องไม่ใช่แค่จัดงานแล้วจบ บอกต้องทำให้ชาติอื่นยอมรับรัฐบาลหน้า บอกอย่าเรียกรากหญ้า ให้พูดผู้มีรายได้น้อย ย้ำไม่ขัดแย้งประชาธิปไตยโลก
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่กรมป่าไม้ เมื่อเวลา 10.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานพิธีทำลายงาช้างของกลางที่ผิดกฎหมาย โดยกล่าวว่า ถือว่าการมาพบกันเป็นการแสดงความร่วมมือของรัฐบาลไทย ประเทศไทย ที่มีกระทรวงทรัพย์ฯ เป็นผู้ปฏิบัติ รวมทั้งอธิบดีกรมต่างๆ เป็นโอกาสดีมาพบกัน ไทยมีโอกาสแสดงเจตนารมณ์การต่อต้านลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม วันนี้อากาศร้อนแสดงว่าป่าบ้านเราน้อยลง วันนี้เป็นงานใหญ่มีผู้แทนจากประเทศต่างๆ องค์กรต่างๆ ในประเทศ แต่ก่อนมีปัญหาไม่เข้าใจรัฐบาล แต่ไม่ใช่รัฐบาลของตน แต่วันนี้เข้าใจกัน มีเจตนารมณ์แน่วแน่ในการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของไซเตส และมีทำแผนปฏิบัติการให้มีประสิทธิภาพ และมีการเอาของผิดกฎหมายมาใช้ประโยชน์ แต่ทำได้เมื่อคดีสิ้นสุดแล้วเท่านั้นตามกติกาสากลของโลก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไทยมีช้างเป็นสัตว์ประจำชาติอยู่คู่บ้านคู่เมืองมานาน แต่ที่ผ่านมาช้างถูกฆ่า ถูกล่า ถูกใช้ประโยชน์จากงา วันนี้เราต้องดูแลเขา ไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องอย่างเดียว แต่ต้องปกป้องทรัพยากรของเราด้วย ช้างมีสิทธิอยู่บนแผ่นดิน เราต้องดูแลช้าง ไม่แน่ใจว่าจะต้องมีคณะสิทธิมนุษยช้างด้วยหรือไม่ ต้องช่วยกันทำงาน เรามีการทำงานใหม่ทั้งสิ้น เพราะถูกจับตาเป็นศูนย์กลางทางผ่านของการค้างาช้าง เป็น 1 ใน 8 ประเทศที่ต้องทำแผนปฏิบัติการซึ่งทำไปเมื่อปี 57 ซึ่งมีการเร่งอย่างเต็มที่ เพราะถ้าไม่ทันก็อาจจะกระทบต่อการค้ากับต่างประเทศ
“ในฐานะนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญทุกเรื่อง ไม่ดูเฉพาะคนเท่านั้น ต้องดูช้าง และสัตว์ทุกชนิด ทำตามพันธสัญญาทุกชิ้นที่ทำได้ ที่ยังทำไม่ได้ติดขัดอยู่ก็ขอให้เข้าใจ สิ่งต่างๆ เกิดในสมัยนี้ทั้งนั้น เราจำเป็นต้องดูแลไม่ให้เกิดเสียหายต่อเศรษฐกิจ เป็นปัญหาของไทยมานาน รัฐบาลเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาในช่วงเวลาหนึ่ง ให้ประชาธิปไตยเดินไปได้ ถ้าไม่ได้ทางทูตประเทศต่างๆ ก็จะทำหนังสือให้ผมทำโน่นนี่ตลอดเวลา วันนี้อยากให้เป็นการทำงานอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีสิ่งที่น่ายินดีที่เรามี พ.ร.บ.งาช้าง 2558 เป็นฉบับแรกที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ต้องขอบคุณประชาชนที่แจ้งข้อมูล ลงทะเบียนครอบครอบงาช้าง เพราะต้องทำให้ฐานข้อมูลชัดเจน และขอบคุณร้านค้างาช้าง ที่เราต้องขอความร่วมมือ เพราะจะทำผิดกฎหมายต่อไม่ได้แล้ว ไทยต้องสะอาดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กฎหมายต้องเข้มงวด ไม่มีแบ่งแยก คนไทยและช้างมีสิทธิเท่ากัน ช้างในโลกมีเพียงหลักหมื่นตัว น้อยลงทุกปี และถูกฆ่า 3 หมื่นตัวต่อปี คงออกลูกไม่ทัน แต่ของไทยเราช้างเยอะขึ้น ดังนั้นต้องอยู่ร่วมกับช้างให้ได้ คนต้องอยู่ร่วมกับช้าง เพราะเราเข้าไปอยู่ที่ของเขา สิ่งสำคัญต้องไม่ให้ช้างถูกฆ่าอีกไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม วันนี้ต้องรณรงค์สร้างเครือข่ายความเข้าใจ อย่าขัดแย้งกันอีก วันนี้ผมมาเพื่อยุติความขัดแย้ง ไม่อย่างนั้นไม่รู้จะเข้ามาทำไม เราต้องช่วยกัน วันนี้ผมขอเป็นแกนนำอาเซียนดูแลเรื่องช้าง ไม่ใช่แค่ประเทศไทยประเทศเดียว ต้องร่วมมือกันทุกเรื่องเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ต้องร่วมกันทุกประเด็น ใครถนัดอะไรก็สนับสนุนเขา วันนี้ต่างประเทศเข้าใจ เพราะรู้ว่าผมเขามาเพื่อทำอะไร ต้องป้องกันเรื่องการขนงาช้างเข้าในประเทศ ซึ่งผมได้สั่งการอธิบดีกรมศุลการกรแล้ว วันนี้งาช้างของกลางเอามาทำลายก็เสียดาย แต่ดีใจที่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ช้างแล้ว เพราะเป็นสัตว์ใหญ่ มีชีวิตจิตใจ แต่พูดไม่ได้ แต่แววตาน่าสงสาร เราจึงต้องมีเมตตาเหมือนผมที่ใช้อำนาจก็ใช้อย่างมีเมตตา ไม่อยากให้การจัดงานวันนี้เพียงโชว์แล้วจบ แต่ต้องต่อเนื่องและแก้ปัญหาจริงจัง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ระบบเกษตรกรรมประเทศเราต้องปรับปรุง และโครงสร้างเศรษฐกิจอื่นๆ ด้วย ประเทศเรายังมีรายได้ปานกลาง เราต้องพัฒนาทุกอย่างเพื่อให้ทันเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ขัดแย้ง ค้านทุกอย่าง ถ้าเราจะไปสู่ประเทศรายได้สูง หรือได้รับการยอมรับ ถ้ายังขัดแย้งกันอยู่ อย่างที่ผ่านมาหรือวันนี้ก็เริ่มมีเรื่องการเมืองแล้ว เราก็จะไม่มีจุดยืนในเวทีโลก เราต้องทำให้ประเทศอื่นเขายอมรับเรา เขาไม่ยอมรับตนก็ไม่เป็นไร แต่เขาต้องยอมรับรัฐบาลหน้า ตนขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ และตัวแทนมิตรประเทศ ไซเตส ที่ให้ไทยแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ขอให้เกิดความร่วมมืออย่างจริงจังในอนาคต ไม่ว่าจะในเจ้าหน้าที่คนใด เราต้องทำต่อไป ทั้งนี้ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้คือ ต้องมีกฎหมาย เจ้าหน้าที่ และวิธีการปฏิบัติ หมายถึงต้องเข้าใจกันระหว่างนโยบาย ขับเคลื่อน ผู้ปฏิบัติ ไม่ใช่ใช้กฎหมายอย่างเดียว มันจะขัดแย้งหมดเพราะบริหารจัดการไม่สมบูรณ์ เราพยายามพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งข้าราชการและประชาชน ให้ส่งข้อความเข้าใจกันให้ได้ ไม่เช่นนั้นทุกคนจะคิดว่าเจ้าหน้าที่ใช้แต่กฎหมาย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คนบ้านเรามีรายได้น้อยเยอะ แต่อย่าไปเรียกรากหญ้า ต้องเรียกผู้มีรายได้น้อย ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลทั้งหมด วันนี้ตนพูดนอกเรื่องคือเพื่อถือโอกาสสร้างความเข้าใจ เพราะสาระตรงนี้มีคนพูดหมดไปแล้ว เราจะทำให้สิ่งที่พูดเกิดขึ้นอย่างไร และยั่งยืนอย่างไร
“เราจะต้องจับมือกันไปข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อประเทศใดประเทศหนึ่ง เรามีหน้าที่ต้องประชาคมของเราและประชาคมโลก แต่ละประเทศมีความต่าง มีปัญหาคนละแบบ มีวิธีแก้ปัญหาคนละแบบ แต่ผมจะไม่ไปขัดแย้งกับประชาธิปไตยโลกอย่างเด็ดขาด ขอเวลาเราสักนิดเพื่อให้เกิดสันติสุขในอนาคต” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในการบด เผาทำลายงาช้างของกลางที่ผิดกฎหมาย ท่ามกลางสักขีพยานจำนวนมาก
