นายกฯ และหัวหน้า คสช.เปิดงานรณรงค์ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับงาช้าง ลั่นต้องทำให้สำเร็จในรัฐบาลนี้่ รวมเรื่องแงงานประมงและขอทาน จวกคนใจร้ายล่าช้าง ยันต่อจากนี้ต้องไม่เกิดอีก วอนทุกคนช่วยกันเฝ้าระวัง พร้อมรักษาป่าไม่ให้น้อยไปกว่าเดิม บ่นเปิดทีวีมาก็ปวดหัว เรื่องไม่ควรก็เป็นเรื่อง ต้องรบทุกเรื่องใช่ไหม ย้ำไม่ยอมให้ใครฝ่าฝืนกฎหมายอีก
วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นประธานเปิดงานกิจกรรมรณรงค์ การปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับงาช้าง โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมงาน
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานว่า การทำงานทุกอย่างต้องทำงานใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็กๆ จะได้มีเวลาไปทำงานอื่นได้ รัฐบาลเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ปัญหาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องรื้อแก้ไขทำใหม่ อย่างเรื่องช้างมีการแจ้งเตือนไทยหลายครั้งแล้ว แต่เรามีปัญหาหลายอย่าง ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการแก้ไข เมื่อมาถึงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ต้องทำให้สำเร็จในรัฐบาลนี้ให้ได้ อยากให้ประชาชนเข้าใจ ว่าเราตั้งใจแก้ไขปัญหาทุกเรื่องโดยเร็ว ประเทศไทยจำเป็นต้องแก้ไขกฎระเบียบและกฎกระทรวง เนื่องจากมีการแจ้งเตือนในปี 56 แต่ปี 57 คนทะเลาะกัน ซึ่งเพิ่งจะได้มาแก้ไขกลางปี 57 และมาปี 58 ตอนนี้รัฐบาลไม่ได้แก้ไขเรื่องช้างเรื่องเดียว ยังแก้ไข แรงงานประมง ขอทาน ทั้งหมดเป็นพันธสัญญา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า บ้านเราช้างมากขึ้นเพราะป่าได้รับการดูแลดีขึ้น แต่ก็มีคนใจร้ายล่าช้าง สิ่งเหล่านี้แย่ ต่อจากนี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีก ต้องร่วมมือกัน ใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ ทุกคนในประเทศต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ไม่ว่าจะมีกฎหมายใด ไม่มีประโยชน์ถ้าคนไม่มีจิตสำนึก ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง เป็นสัญลักษณะของประเทศ เปรียบเป็นรถถังที่คอยนำทัพสู้ศึกสงคราม ขอให้ทุกคนรักช้าง เพราะช้างมีบุญคุณต่อแผ่นดิน ช้างมีความคิด แต่คนฉลาดกว่าช้าง เพราะคนทั้งสร้างและทำลาย จากนี้ทำอย่างไรให้คนอยู่ร่วมกับช้างได้ วันนี้เราไม่ได้อยู่เฉพาะคนไทย อยู่ในสังคมโลก จากนี้ไปรัฐบาลต้องรักษาผืนป่าไม่ให้บุกรุก ไม่ให้น้อยไปกว่าเดิมแม้แต่ตารางนิ้วเดียว แต่ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนี้คือสิ่งที่กระทรวงทรัพยากรฯรับปากไว้
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราไม่ได้อยู่เฉพาะคนไทย เราอยู่ในสังคมโลก มีภาคีผูกพัน วันนี้ประชุม ครม.เศรษฐกิจวิเคราะห์ว่าที่เศรษฐกิจชะลอตัวเพราะธุรกิจสีเทาหรือธุรกิจที่ผิดกฎหมายหายไปทำให้เงินหมุนเวียนน้อยลง เงินเฟ้อน้อย การว่างงานน้อยลง แต่ทำเศรษฐกิจระดับล่างยังไม่ดี เราต้องไปดู วันนี้แบ่งคนเป็น 3 ระดับ คนรวยที่สุด 10 เปอร์เซ็นต์ ระดับกลาง 60 เปอร์เซ็นต์ และคนจน 30 เปอร์เซ็นต์ เป้าหมายรัฐบาลต้องขับเคลื่อนไปให้ได้ ประเทศมีความเข้มแข็ง สร้างรายได้ สร้างอาชีพ รัฐบาลต้องใช้รัฐศาสตร์และนิติศาสตร์บริหารประเทศ แม้จะไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่ยอมให้กลับไปสู่จุดเดิมอีก เปิดทีวีมาก็ปวดหัวจะมีปลด ส.ว.และส.ส. เรื่องไม่ควรเป็นเรื่องก็เป็นเรื่อง ปัญหาเรื่องพระก็มาอีกแล้ว ตกลงต้องรบทุกเรื่องใช่ไหม อย่างไรก็ตามอยากให้คิดถึงว่าบ้านเราเป็นเมืองพุทธ อยากให้ยอมรับกติกากันบ้าง แต่ไม่ยอมให้ใครมาฝ่าฝืนกฎหมายอีก
