รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ถามปรับ ครม.แล้วไม่ดีขึ้น นายกฯ จะทำทำไม บอกบางคนตั้งใจแต่ไม่เกิดความเชื่อมั่น เชื่อคนพ้นเก้าอี้คงไม่ไม่พอใจ โบ้ย “ประยุทธ์” ตัดสินใจคนเดียว หวัง ทีม “สมคิด” ทำเศรษฐกิจดีขึ้น บอกนักข่าวไม่ต้องสนใจโผทหาร ปรับแล้วดีขึ้นแน่ ชูทำงานเป็น ลั่นไม่มีพวกใครมีแต่น้อง ใครขึ้นมาก็สนองงานรัฐได้ เผยให้ ผบ.ทอ.เป็นประธานคณะทำงานการแก้ไขฯ ควบคุมการบินพลเรือน
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่อาคารรับรองบ้านเกษะโกมล เมื่อเวลา 12.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ไม่สามารถพูดได้ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีท่านทำให้ดีขึ้นและทำให้เกิดความเชื่อมั่น ถ้าทำแล้วไม่ดีขึ้น ท่านจะทำทำไม นายกรัฐมนตรีต้องการความเชื่อมั่นจากประชาชนว่าเมื่อทำไปแล้วต้องดี แต่ผลออกมาจะดีหรือไม่ดีนั้นตนไม่รู้ เป็นเรื่องอนาคต เพราะรัฐมนตรีที่ทำงานมาตั้งใจทุกคนแต่ไม่เกิดความเชื่อมั่น
เมื่อถามว่า การปรับครั้งนี้เพื่อให้ทุกอย่างขับเคลื่อนเร็วขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ปัจจุบันก็ขับเคลื่อนอยู่แล้ว แต่ความเชื่อมั่นของประชาชนมีความสำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องการทำให้เกิด เมื่อถามว่าคนที่ปรับออกจะเกิดอาการไม่พอใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คงไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณในคณะรัฐมนตรีอย่างชัดเจน ท่านก็รู้ว่าทุกคนช่วยทำงาน แต่มีความจำเป็นที่ท่านต้องตัดสินใจ ทั้งนี้ตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างที่หนังสือพิมพ์นำไปเขียน นายกรัฐมนตรีตัดสินใจของท่านคนเดียว โดยท่านดูในรายละเอียดทุกกระทรวง และทุกเรื่อง เพราะท่านเป็นคนชอบอ่านหนังสือ และติดตามงานต่างๆ ด้วยตัวเอง อย่าไปโยนคนโน้น คนนี้
เมื่อถามย้ำว่า ทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามาก็จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนหวังว่าจะดีขึ้น ส่วนจะดีหรือไม่ดีก็ฝากทุกคนช่วยดู เมื่อถามว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ที่ถูกปรับไปเป็นที่ปรึกษาไม่พอใจและมองว่าเป็นการแบ่งแยกและปกครอง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นความคิดของท่าน แต่คงไม่มีปัญหา ทุกคนทำงานให้แก่ประเทศชาติ ให้ประชาชน ทั้งนี้ ตนคงไม่ต้องให้กำลังใจนายสมคิด เพราะตัวท่านต้องมีกำลังใจในการทำงาน เมื่อได้รับตำแหน่งที่สำคัญในการเข้ามาแก้ไขปัญหา ท่านก็ต้องทำให้ได้ เป็นหน้าที่ของท่าน คิดว่าเมื่อปรับแล้วต้องดีกว่าเดิม
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงความคืบหน้าบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปีโดยเฉพาะตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกว่าดำเนินการไปตามขั้นตอน ผู้สื่อข่าวไม่ต้องสนใจ รับรองว่าปรับย้ายแล้วไม่มีอะไรเสียหาย ดีขึ้นแน่นอน เพราะคนเก่าเกษียณอายุราชการ คนใหม่ก็เข้ามาทำงานแทน ซึ่งเป็นระบบ ไม่ต้องไปตื่นเต้น เป็นเรื่องธรรมดา ตอนตนจะขึ้นมาเป็นก็อย่างนั้นอย่างนี้ พอตนไปคนอื่นก็ขึ้นมาแทนก็เปลี่ยนกันไป แต่ทุกคนที่มาเป็นทำงานให้ประชาชน ประเทศชาติ และกองทัพ
“ทั้งนี้ไม่ต้องห่วง เพราะคนที่จะได้รับแต่งตั้ง เขาทำงานเป็น ผมเป็น รมว.กลาโหม ก็ตั้งคนเป็น ไม่ต้องมาห่วง สบายใจได้ และไม่ต้องไปเขียนว่าคนนั้น คนนี้พวกใคร จำไว้เลยว่าไม่มีพวกใคร ทุกคนก็เป็นน้องทั้งนั้น ถ้ามีตำแหน่ง 10 ตำแหน่งก็เป็นได้เลยสิบคน แต่เมื่อมีตำแหน่งเดียวก็เปลี่ยนกันไป ทำกันไป ไม่มีน้องคนไหนรักมากรักน้อย เพราะการทำงานไม่มีความรัก การทำงานคือทำให้เป็นไปตามความมุ่งหมายและภารกิจของรัฐบาล ใครมาเป็นก็ต้องทำตามนี้ ไม่ต้องห่วงใครจะมาเป็น ผบ.ทบ. ทหารใกล้เกษียณมีระเบียบเป๊ะทุกคน เชื่อว่าใครที่ขึ้นมาก็สามารถสนองนโยบายรัฐบาลและทำงานให้กับประชาชนได้ ทุกเรื่องที่ทำไปไม่มีแรงกดดัน เช่น การตั้งตำรวจถึงเวลาก็ทำไป โดยดูเหตุและผลว่าใครเป็นและได้ประโยชน์มากน้อยกว่ากัน และมีความเหมาะสม และมีคณะกรรมการร่วมพิจารณาในภาพรวม” พล.อ.ประวิตรกล่าว
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า คณะทำงานทั้ง 7 คณะได้รายงานผลการดำเนินงาน และพิจารณาว่าสิ่งใดที่รัฐบาลดำเนินการและยังติดค้างอยู่ เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งวันนี้ได้คุยในเรื่องคลัสเตอร์ต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งเราก็ทำความก้าวหน้าให้เกิดให้ได้ นอกจากนั้น ยังมีการพูดถึงการขับเคลื่อนงานในส่วนมาตรฐานการบิน เพื่อให้ทันเวลาที่ คสช.ต้องเข้ามาดูแลเพื่อให้ทันเวลาตามที่คณะกรรมการ ICAO ต้องการ โดยมีการตั้งคณะทำงานการแก้ไขและกำหนดมาตรการและควบคุมการบินพลเรือน มี พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.เป็นประธาน) โดยเข้าไปแก้ไขเรื่องจำนวนบุคลากรของศูนย์การบินที่ยังมีอยู่น้อย และต้องดูทั่วประเทศไทย จึงให้ทางกองทัพอากาศเข้าไปช่วย ตอนนี้การแต่งตั้ง การดำเนินการ อาจไม่ทันซึ่งกองทัพอากาศมีใบอนุญาตอยู่แล้วในเรื่องนี้ การแก้ไขปัญหาไม่ได้ทำแค่เฉพาะหน้า แต่ต้องทำอย่างถาวร โดยการปรับในกรมการบินพลเรือนมีจำนวนคนมากขึ้นก็เป็นเรื่องของกระทรวงคมนาคมดำเนินการ