“บัวแก้ว-ททท.” ย้ำยังไม่มีประเทศใดสั่งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไทย สถานทูตหลายประเทศประจำไทยแสดงความเสียใจ ด้าน 32 ประเทศเตือนประชาชน-นักท่องเที่ยวระวังตัวขั้นสูงสุดในไทย เหตุบึ้มราชประสงค์ เผยทูตจีนในไทยติดตามใกล้ชิด
วันนี้ (18 ส.ค.) มีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีประเทศไหนประกาศห้ามเดินทางมาไทย แต่มีหลายประเทศที่เพิ่มรายละเอียดในเว็บไซต์ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวของประเทศตนเอง ขอให้ใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น และติดตามข่าวสารจากทางการไทยและสถานทูตของประเทศตนเอง
กระทรวงการต่างประเทศออกประกาศว่า เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมสถานการณ์และพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ และได้ให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ โดยได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง 11 แห่ง สำหรับผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์อัตลักษณ์และติดต่อญาติโดยเร่งด่วน รัฐบาลไทยขอแสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตและรับรองว่าจะดูแลและเยียวยาผู้ป่วยอย่างดีที่สุด รวมทั้งจะดำเนินการตามมาตรการทุกอย่างอย่างสุดความสามารถเพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาและใช้วิจารณญาณในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งข้อมูลและสถานะล่าสุดให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก รวมทั้งได้ประสานข้อมูลให้สถานเอกอัครราชทูตและผู้แทนทางการทูตต่างประเทศในไทยทราบด้วยแล้ว
ขณะที่กรมการกงสุล ตลอดจนสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลกพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกในการตรวจลงตรา (วีซ่า) แก่ญาติพี่น้องของผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยจะออกวีซ่าให้อย่างเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอให้ญาติพี่น้องของผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ ติดต่อขอรับวีซ่าและข้อมูลเพิ่มเติมได้จากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศที่ตนพำนักอยู่
นายศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีจำนวนประเทศที่ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก 4 ประเทศ คือ อินเดีย เม็กซิโก ลักเซมเบิร์ก และสาธารณรัฐเช็ก ทำให้มีจำนวนประเทศที่ประกาศเตือนเพิ่มขึ้นเป็น 32 ประเทศ เพิ่มจาก 28 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีประเทศใดที่ประกาศเตือนในระดับ 5 คือ ห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทย รวมทั้งยังไม่มีการเตือนในระดับ 4 คือ ให้ทบทวนการเดินทาง หรือหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น ส่วนการเตือนในระดับ 3 ยังมีเพียง 2 ประเทศ ได้แก่ อิสราเอล และสโลวักเท่านั้น ทำให้การเตือนระดับ 2 ในขณะนี้จึงมี 30 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สวีเดน ญี่ปุ่น ไต้หวัน แคนาดา ออสเตรีย บราซิล สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เยอรมนี ฮังการี อิตาลี ฟินแลนด์ เบลเยียม สเปน เดนมาร์ก จีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และประเทศที่เพิ่มขึ้นมาอีก 5 ประเทศ รัสเซีย ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ ฮ่องกง ลักเซมเบิร์ก อินเดีย เม็กซิโก และสาธารณรัฐเช็ก
วันเดียวกัน สหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ และหวังให้ผู้บาดเจ็บฟื้นตัวโดยเร็ว ทางอียูเป็นกำลังใจให้แก่ประชาชนไทยที่อยู่ในภาวะสะเทือนใจและสูญเสีย
เฟซบุ๊กสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความจากทำเนียบขาว สำนักงานเลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนวันที่ 17 ส.ค. เป็นคำแถลงโดย นายเนด ไพรซ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ระบุว่าสหรัฐอเมริกาขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานครของประเทศไทย สหรัฐอเมริกาขอประณามการใช้ความรุนแรงครั้งเลวร้ายนี้ และขอแสดงความห่วงใยไปยังผู้เคราะห์ร้าย ครอบครัวและผู้เป็นที่รักของพวกเขา รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายฉุกเฉินของไทยที่ปฏิบัติงานตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าว สหรัฐอเมริกาจะยังคงประสานกับทางการไทยอย่างใกล้ชิดในระหว่างที่ทางการไทยดำเนินการสืบสวนเหตุโจมตีครั้งนี้
ด้านสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่แถลงการณ์จากนางจูลี บิชอป รมว.ต่างประเทศออสเตรเลีย ระบุว่าออสเตรเลียขอประณามเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันชาวออสเตรเลียขอส่งความคำนึงถึงไปยังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ตนได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยเมื่อเช้าวันนี้ (18 ส.ค.) และยืนยันว่าสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย กำลังดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ของไทย แม้ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าชาวออสเตรเลียเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัส แต่ออสเตรเลียจะยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ของไทย เนื่องด้วยเหตุการณ์นี้ และจะดำเนินงานเพื่อกระชับสายสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงความร่วมมือระดับภูมิภาคในการต่อต้านการก่อการร้าย
มีรายงานว่า ช่วงกลางดึกวานนี้(17 ส.ค.) ฯพณฯ หนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บชาวจีนที่ห้องฉุกเฉินและอุบัติเหตุ โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อร่วมตรวจอสอบกรณีชาวจีนเสียชีวิต และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก