รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยรัฐสภา กำชับแก้ไขจุดเอกซเรย์ใต้ท้องรถยังล่าช้า และส่วนประตูที่มีปัญหา บอกเพื่อความไม่ประมาทหลังเป็นสถานที่ถูกเชื่อมโยงโดยตรงจากปัญหาการเมือง สั่งเข้มเต็มอัตรา แก้ปมให้เสร็จใน 1 วัน แต่รับไม่มีใครแจ้งเตือน ยังไม่สรุปเหตุบึ้มราชประสงค์
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.15 น. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เดินทางมาตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาเริ่มตั้งแต่จุดเอกซเรย์ใต้ท้องรถยนต์ และจุดตรวจอาวุธประตูทางเข้าอาคารรัฐสภา 1 พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่แก้ไขในจุดเอกซเรย์ใต้ท้องรถที่ยังมีความล่าช้าอยู่ และในจุดตรวจตรงประตูที่ยังมีปัญหาในรายละเอียด
นายสุรชัยให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจสอบว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. เพื่อความไม่ประมาท อีกทั้งรัฐสภาเป็นสถานที่เชื่อมโยงโดยตรงกับการปัญหาทางการเมืองของประเทศ จึงได้มีการกำชับให้มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดขึ้นทั้งภายในและภายนอกรัฐสภา โดยให้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาเต็มอัตรา และให้แก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ให้เสร็จภายใน 1 วัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ที่รัฐสภาอาจเป็นหนึ่งในจุดเสี่ยง นายสุรชัยกล่าวว่า ไม่กังวลแต่ไม่ประมาท เชื่อว่าถ้ามีความระมัดระวังล่วงหน้าย่อมดีกว่าจะเกิดเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะได้เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่สมาชิกทั้งสองสภา ประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ในสภา
เมื่อถามว่า หน่วยข่าวกรองมีการแจ้งเตือนมายังรัฐสภาหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า ยังไม่มี แต่ในฐานะผู้บริหารสภาฯ และได้ปรึกษากับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เห็นตรงกันว่าต้องให้ระดับการดูแลรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาเป็นระดับสูงสุดทั้งหมด ส่วนเรื่องเวลาการเข้าออก คงจะไปกำหนดอะไรมากไม่ได้ แต่จะสั่งเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ทุกผลัดและเพิ่มความละเอียดในการตรวจสอดและพฤติกรรมของบุคคลที่อยู่ในสภาด้วย และหลังจากตรวจสอบพื้นที่เสร็จแล้วจะมีการเรียกผู้บังคับบัญชาการดูแลรักษาความปลอดภัยของทั้งสองสภามาประชุม
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีเหตุจูงใจมาจากการเมืองหรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า คงสรุปอะไรไม่ได้ต้องรอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าสมาชิก สนช.เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน ในวันประชุม สนช. คงจะได้มีการแจ้งความคืบหน้าให้ที่ประชุมทราบข้อมูลมากขึ้น