ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติไม่ถอดถอนอดีต ส.ส.ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.ตามที่ ป.ป.ช.เสนอ หลังให้ลงมติทั้ง 3 กลุ่ม พบไม่ถอดถอน 237 อดีต ส.ส.กลุ่มที่ร่วมลงชื่อและลงมติทั้ง 3 วาระ ไม่ถอดถอน 1 อดีต ส.ส.ที่ร่วมเสนอและลงมติแก้ไขในวาระ 1 และ 3 และไม่ถอดถอน 10 อดีต ส.ส.เสนอญัตติและร่วมลงมติวาระ 2 และ 3
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่เป็นประธานเพื่อพิจารณาเรื่องด่วนในการดำเนินกระบวนการถอดถอนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 248 คน ออกจากตำแหน่งตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2557 ประกอบมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กรณีร่วมเสนอญัตติ และลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. เนื่องจากมีการทำผิดอำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยมีการแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ 1 ร่วมลงรายมือชื่อในการเสนอญัตติและร่วมลงคะแนนในวาระที่ 1, 2 และ 3 จำนวน 237 คน, กลุ่มที่ 2 ร่วมลงรายมือชื่อในการเสนอญัตติและร่วมลงคะแนนในวาระ 1 และ 3 จำนวน 1 คน และกลุ่มที่ 3 ร่วมลงรายมือชื่อในการเสนอญัตติและร่วมลงคะแนนในวาระ 2 และ 3 จำนวน10 คน โดยผลลงคะแนนถอดถอนจะต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ หรือ 132 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้มีการลงคะแนนโดยการเรียกชื่อสมาชิกเรียงตามลำดับตัวอักษรเพื่อทำการลงคะแนนในคูหาที่จัดไว้ให้ จากนั้นได้ตั้งคณะกรรมการจำนวน 6 ชุดทำการนับคะแนน โดยระหว่างลงคะแนนได้เชิญผู้ทีไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม
ภายหลังจากการใช้เวลานับคะแนนกว่า 3 ชั่วโมง ปรากฏว่าผลการลงมติของ สนช.ไม่สามารถถอดถอนอดีต ส.ส.ทั้ง 248 คนได้ เนื่องจากคะแนนถอดถอนไม่ถึงตามข้อบังคับคือ 132 คะแนนขึ้นไป โดยทั้ง 248 คนแยกเป็น 3 กลุ่มตามฐานความผิด ดังนี้ โดยกลุ่มแรกมีอดีต ส.ส.จำนวน 237 ฐานเข้าชื่อเสนอกฎหมาย และร่วมลงมติในวาระ 1, 2 และ 3 ปรากฏว่าการลงมติไม่มีคนใดถูกถอดถอน โดยคะแนนเกาะกลุ่มเฉลี่ยเสียงถอดถอน 59 ไม่ถอดถอน 142 ไม่ออกเสียง 1 ส่วนกลุ่มสองจำนวน 1 คน คือ นายอภิรัต ศิรินาวิน อดีต ส.ส.พรรคมหาชน ฐานเข้าชื่อเสนอกฎหมาย และลงมติในวาระในวาระ 2 และ3 ผลการลงมติเสียงถอดถอน 59 ไม่ถอดถอน 140 คะแนน ไม่ออกเสียง 4 และ กลุ่มสามจำนวน 10 คน กรณีเข้าชื่อเสนอกฎหมายและลงมติเฉพาะวาระที่ 1 และ 3 ผลปรากฏว่าไม่มีใครถูกถอดถอน โดยมีคะแนนเฉลี่ย เสียงถอดถอน 59 ไม่ถอดถอน 142 ไม่ออกเสียง 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงถอดถอนสูงนั้นอยู่ในกลุ่มแรก 237 คน โดยมีเสียงถอดถอน 60 คะแนนขึ้นไป โดยส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และออกมาเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์โต้ตอบทางการเมือง เช่น นายสุนัย จุลพงศธร เสียงถอดถอน 64 ไม่ถอดถอน 136 ไม่ออกเสียง 2, นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ คะแนนถอดถอน 66 ไม่ถอดถอน 134 ไม่ออกเสียง 2, นายวิทยา บุรณะศิริ ถอดถอน 63 ไม่ถอดถอน 137 ไม่ออกเสียง 2, นายก่อแก้ว พิกุลทอง ถอดถอน 63 ไม่ถอดถอน 137 ไม่ออกเสียง 2, จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ถอดถอน 61 ไม่ถอดถอน 137 ไม่ออกเสียง 2, นพ.เหวง โตจิราการ ถอดถอน 65 ไม่ถอดถอน 134 ไม่ออกเสียง 4 และนายวัฒนา เมืองสุข ถอดถอน 65 ไม่ถอดถอน 133 ไม่ออกเสียง 3 ขณะที่ผู้ได้รับคะแนนเสียงถอดถอนน้อยสุดอยู่กลุ่มสาม คือ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง ถอดถอน 55 ไม่ถอดถอน 143 ไม่ออกเสียง 3
จากนั้น นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.คนที่ 2 แจ้งว่า ขั้นตอนจากนี้จะแจ้งมติให้กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหา และอดีต ส.ส.248 คน ผู้ถูกกล่าวหา และคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบต่อไป และปิดประชุมในเวลา 17.00 น. โดยใช้เวลาในการลงมติถอดถอนทั้งหมด 7 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ก่อนการลงคะแนน นายพรเพชรได้แจ้งต่อที่ประชุมโดยสรุปข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. และการโต้แย้งข้อกล่าวหาของอดีต ส.ส.248 คน รวมทั้งตั้งกรรมการนับคะแนนจำนวนทั้งสิ้น 60 คน แบ่งเป็น สนช. 36 คน และเจ้าหน้าที่ 24 คน จากนั้นได้ให้สมาชิกลงคะแนนในเวลา 11.00 น.ด้วยการขานชื่อเรียงตามอักษรเข้าคูหากาบัตรลงคะแนนซึ่งมีเพียง 2 ช่อง คือ ถอดถอน และไม่ถอดถอน พร้อมทั้งขอให้สื่อมวลชนออกจากห้องประชุมเพื่อป้องกันการซูมภาพการลงคะแนนของสมาชิก เนื่องจากได้จัดคูหาลงคะแนนไว้กลางห้องประชุมโดยสมาชิกใช้เวลาลงคะแนนร่วม 2 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 13.10 น.เริ่มนับคะแนน ปรากฏว่ามีสมาชิก สนช.มาประชุมลงคะแนนจำนวน 203 คน ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.และ สนช.ได้รับมอบหมายให้ร่วมเป็นกรรมการนับคะแนนด้วย แต่ภายหลังได้มีการเปลี่ยนตัวให้ สนช.คนอื่นมาเป็นแทน เนื่องจากเจ้าตัวอ้างว่าติดภารกิจ ขณะที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.และ สนช.ได้ลาการประชุม
