“บิ๊กตู่” ยึดงบปี 58 หน่วยราชการ 8 พันล้าน เหตุเซ็นสัญญาไม่ทัน ผงะ “กรม ปค.- ศธ.” ตั้งซื้อคอมพิวเตอร์ รวม 4 พันล้าน เผย ครม. ชะลอ “มาตรการรถเมล์ - รถไฟฟรี” แบบใหม่ สั่งขยายฟรีแบบเดิมเพิ่ม 3 เดือน สั่ง “สมหมาย - ประจิณ” ถกจุดสมดุลยกเว้นค่าโดยสารให้กับกลุ่มบุคคลใดบ้าง
วันนี้ (11 ส.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณา “มาตรการลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน” ในส่วนของรถเมล์ - รถไฟฟรี ในหลักเกณฑ์ใหม่ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ซึ่งจะได้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของประชาชนที่จะได้รับสิทธิในการโดยสารรถเมล์ รถไฟฟรี จากเดิมที่ประชาชนทุกคนสามารถใช้บริการได้หมด โดยในเงื่อนไขใหม่นี้จะแบ่งกลุ่มเป็นประเภทของประชาชนที่ได้รับสิทธิลดหย่อนค่าโดยสาร 50% กลุ่มที่ใช้ตั๋วเดือน และกลุ่มที่โดยสารฟรี ซึ่งในรายละเอียดเงื่อนไขของการใช้สิทธิในแต่ละประเภทนั้น คณะรัฐมนตรีเห็นว่ายังไม่มีความชัดเจน จึงมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมกลับไปหารือในรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลังแล้วกลับมานำเสนอใหม่อีกครั้ง
“ครม. หลายคนเห็นว่า หลายกรณียังไม่มีความชัดเจน เช่น ผู้มีรายได้น้อยที่ตั้งขึ้นมาว่าต้องมีเงินเดือนไม่เกิน 3,600 กว่าบาทนั้น ตัวเลขนี้เอามาจากไหน ท่านนายกฯ บอกว่า มาตรการใหม่ที่คมนาคมเสนอมานี้ให้ไปหาข้อยุติ และให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ โดยให้ รมว.คลัง เป็นแกนกลาง ในฐานะประธานคณะกรรรมการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ” พล.ต.สรรเสริญ กล่าวและว่า สำหรับมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนในส่วนของรถเมล์ - รถไฟฟรี ตามหลักเกณฑ์เดิมที่ได้หมดอายุไปเมื่อ 31 ก.ค. 58 นั้น ที่ประชุม ครม. ได้ขยายเวลามาตรการดังกล่าวออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือน ต.ค. 58
มีรายงานว่า หลักเกณฑ์ใหม่ในการรับสิทธิใช้บริการรถเมล์รถไฟฟรีตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอนั้น เช่น กำหนดให้กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทหารผ่านศึก พระภิกษุ และแม่ชี ได้รับสิทธิลดค่าโดยสารครึ่งราคา, ส่วนนักเรียนไม่เกินระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 จะได้รับสิทธิในการจ่ายค่าโดยสาร 1 ใน 3 และนักเรียนที่ศึกษาระดับชั้นสูงกว่ามัธยมศึกษาปีที่ 3 รวมทั้งนักศึกษาจะต้องจ่ายค่าโดยสารในราคา 2 ใน 3 นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ที่มีรายได้น้อยจะได้รับสิทธิลดหย่อนค่าโดยสารครึ่งราคา แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีรายได้ไม่เกินเดือนละ 3,632 บาท เป็นต้น
ยึดงบปี 58 รวม 7,917 ล้าน เหตุเซ็นสัญญาไม่ทัน ผงะ “ปค.- ศธ.” เพียบ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. โอนงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้การบริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปี มีความรวดเร็วในการดำเนินการ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยรัฐบาลพยายามที่จะดำเนินการให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาจะเร่งเบิกจ่ายช่วงใกล้สิ้นปีงบประมาณโดยไม่มีประสิทธิภาพ
โดยในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 พบว่า รายการที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ไม่สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 31 ก.ค. 58 จำนวน 7,917 ล้านบาท และรายการที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ไม่สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 31 ก.ค. 58 แต่มีเหตุผลความจำเป็นขอดำเนินการต่อโดยไม่โอนงบประมาณจำนวน 3,469 ล้านบาท
“ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ที่ไม่สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 31 ก.ค. 58 มากสุด คือ กระทรวงมหาดไทย จำนวน 2,743 ล้านบาท รองลงมาคือ กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 2,287 ล้านบาท เช่น โครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ เป็นต้น”