xs
xsm
sm
md
lg

เพิ่มประกันภัยนาข้าวนาปีอีก 5 แสนไร่ หลังชาวนาร่วมท่วมท้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
“บิ๊กตู่” ขีดเส้นสิ้นเดือนนี้ จี้ กค.- กษ. ดูแลช่วยเกษตรกรเป็นพิเศษ เน้นการจูงใจให้เข้าร่วมโครงการประกันภัยนาข้าวนาปี หลัง ครม. มีมติเพิ่มอีก 5 แสนไร่ วงเงิน 154 ล้านบาท หลังพบเกษตรกรสนใจเข้าโครงการเกือบเต็มกรอบเดิมที่ ครม. อนุมัติไว้ 1.5 ล้านไร่

วันนี้ (11 ส.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการขยายพื้นที่เป้าหมายเพิ่มเติม จำนวน 500,000 ไร่ และวงเงินงบประมาณจำนวน 154,842,030 บาท ในการดำเนินโครงการ จากเดิมที่กำหนดไว้ 1.5 ล้านไร่ โดยใช้เงินเพิ่มอีกงบประมาณ 154.8 ล้านบาท

“ล่าสุด วันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา มีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการรวมพื้นที่ถึง 1.47 ล้านไร่ ทำให้เหลือพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการได้เพียง 30,000 ไร่ เท่านั้น จึงจำเป็นต้องขยายพื้นที่โครงการออกไปอีก ส่วนแนวทางการรับประกันภัย รวมทั้งรายละเอียดการรับประกันภัย ยังคงรูปแบบเดิมตามมติ ครม.”

ทั้งนี้ ถือเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากโครงการปีการผลิต 2558 ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติไว้ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 เพื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินโครงการให้เกิดความต่อเนื่อง และสามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรในเรื่องการทำประกันภัย

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ประสานงานกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เชื่อมโยงข้อมูลเอกสารทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) แบบประมวลรวบรวมความเสียหายและการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย (แบบ กษ 02) และแบบรายงานข้อมูลความเสียหายจริงของเกษตรกรผู้เอาประกันภัยข้าวเพื่อรับค่าสินไหมทดแทน (แบบ กษ 02 เพื่อการรับประกันภัย)

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความล่าช้าเวลาจ่ายค่าสินไหมทดแทนด้วย สำหรับรูปแบบการรับประกันภัย ได้คิดเบี้ยประกันภัย โดยแบ่งพื้นที่รับประกันภัย 5 พื้นที่ตามระดับความเสี่ยง มีเบี้ยประกันภัยเบื้องต้นไร่ละ 115 - 450 บาท เป็นเบี้ยประกันภัยที่เกษตรกรต้องจ่ายไร่ละ 60 - 100 บาท และเบี้ยประกันภัยที่รัฐต้องอุดหนุนไร่ละ 64.12 - 383.64 บาท คุ้มครองครอบคลุมภัย 7 ประเภท เช่น น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้ง หรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุ หรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาว หรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ และไฟไหม้ รวมทั้งภัยศัตรูพืชและโรคระบาด มีค่าสินไหมทดแทนไร่ละ 1,111 บาท สำหรับภัยธรรมชาติ 6 ภัยแรก ส่วนภัยศัตรูพืชและโรคระบาด มีวงเงินคุ้มครองไร่ละ 555 บาท

“นายกฯ ได้สอบถามถึงการสำรวจความเสียหายของเกษตรกร และขอคำตอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชุม ครม. รอบสุดท้ายก่อนสิ้นเดือน ส.ค. นี้ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลได้ขอให้เกษตรกรชะลอการปลูกข้าว และมีเกษตรกรทำตามร้องขอคำแนะนำรัฐบาล ดังนั้น ส่วนนี้จะถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ 1 ที่จะให้ความเหลือ ส่วนความจำเป็นที่ 2 คือ กรณีที่เกษตรกรพยายามจะปลูกข้าวรอบแรกโดยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาล จนทำให้บางส่วนเสียหาย บางส่วนรอดก็จะให้ความช่วยเหลือเช่นกัน ส่วนจะช่วยมากน้อยแค่ไหนให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องประสานงานกันเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจน เช่น อาจสนับสนุนปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธุ์พืชที่จะนำไปปลูกทดแทนข้าวตามการจัดโซนนิง ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความมั่นใจว่าจะมีน้ำเพียงพอสำหรับฤดูแล้งหน้า แต่ยังต้องมีมาตรการประหยัดน้ำกันอยู่ เพราะยังไม่สามารถวิเคราะห์ว่าฤดูฝนนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ซึ่งกระทรวงการคลังรายงานว่า นอกเหนือจากโครงการประกันภัยนาข้าวแล้ว เมื่อเกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน เกษตรกรยังได้รับการเงินชดเชยความเสียหายจากรัฐบาลไร่ละ 1,113 บาทด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น